สิ่งที่ต้องมีอยู่ในรถยนต์ของคุณนั้นก็คือแบตเตอรี่ ซึ่งแบตเตอรี่ในปัจจุบันก็มีหน้าที่ ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือการปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าในการสตาร์ทรถ และการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าเข้ามาเพื่อจะเอาไว้ใช้ภายในรถยนต์ของคุณ ซึ่งต้องบอกเลยว่านาทีนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งว่า ถ้าหากไม่มีแบตเตอรี่หรือพลังงานไฟฟ้าที่เก็บไว้ในรถ คุณก็จะสตาร์ทรถไม่ติดตั้งแต่แรกนั่นเอง แต่คุณเชื่อไหมว่าหลายคนนั้นที่ใช้รถเป็นประจำไม่รู้จักว่าช่วงเวลาการเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่เหมาะสมนั้นคือช่วงไหน โดยเฉพาะคนไทยต้องบอกเลยว่าแปลกมาก เราจึงอยากจะมาแนะนำวิธีการดูแบตเตอรี่ของคุณว่าถึงเวลาเปลี่ยนแล้วหรือยังด้วยการสังเกตสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1. ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่
สำหรับใครที่ใช้รถยนต์เป็นประจำแล้วไม่เคยสังเกตว่าแบตเตอรี่ของคุณนั้นอายุประมาณเท่าไหร่ ขอแนะนำให้คุณลองพิจารณาช่วงเวลาเหล่านี้ เพราะการใช้แบตเตอรี่ที่เหมาะสมแบบไม่ต้องกังวลใจว่าจะมีปัญหาหรือไม่นั้นจะอยู่ช่วงเวลาประมาณ 1 – 5 เดือนจนถึงช่วงเวลา 2 ปีประมาณนี้ ซึ่งถ้าหากคุณนั้นอยู่ในช่วงหลักเกณฑ์ช่วงเวลาเหล่านี้เราก็ขอแนะนำให้คุณนั้นเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ บอกเลยว่าจะช่วยป้องกันปัญหารถยนต์ของคุณสตาร์ทไม่ติดหรือระบบการทำงานรวนได้แบบง่าย ๆ วิธีเดียวเพียงแค่คุณเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่เท่านั้นเอง

2.ระบบการทำงานระบบไฟฟ้าภายใน มีอาการแปรปรวน
ระบบการทำงานในรถยนต์ของคุณเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าทำงานไม่เสถียร สิ่งนี้สามารถบ่งบอกได้เลยว่าแบตเตอรี่ของคุณนั้นน่าจะเริ่มมีปัญหาแล้ว ซึ่งถ้าหากคุณอยากจะทดสอบว่ามันเป็นจริงเช่นนั้นหรือไม่ คุณลองใช้อุปกรณ์หลาย ๆ อย่างภายในรถดูที่เป็นไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นกระจกไฟฟ้า วิทยุ เครื่องเสียงหรือว่าจะเป็นทางด้านที่จุดบุหรี่ แน่นอนว่าถ้าสิ่งของทั้งหมดนี้ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ก็แสดงว่าแบตเตอรี่ของคุณนั้นเริ่มมีปัญหา ขอแนะนำให้คุณนั้นเปลี่ยนใหม่โดยทันทีอันนี้ดีที่สุดเลย

3. สตาร์ทรถเริ่มจะไม่ติด
นี่น่าจะเรียกได้ว่าอาการหนักที่สุดแล้ว สำหรับที่จะทำให้คุณจะตัดสินใจเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์สักครั้งนั่นก็คืออาการนี้ สำหรับใครที่มีปัญหาทางด้านการสตาร์ทไม่ติดเป็นประจำ ในบางครั้งอาจจะเกิดจากปัญหาเรื่องแบตเตอรี่เสื่อมสภาพก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นแล้ว คุณควรจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่หรือถ้าหากไม่แน่ใจจริง ๆ ขอแนะนำให้พบช่างที่ศูนย์จะได้ตรวจสอบภายใน เพื่อที่จะได้ป้องกันการเสียเงินจากค่าแบตเตอรี่ลูกใหม่ที่ไม่จำเป็นอันนี้ก็ขอแนะนำเลย

สรุปวิธีการสังเกตแบตเตอรี่ว่าถึงเวลาเปลี่ยนแล้วหรือยัง
ข้อมูลเหล่านี้สามารถทำให้ใครหลาย ๆ คนที่คิดอยากจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ก็คงจะตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และถ้าหากคุณนำวิธีการเหล่านี้ไปใช้แล้วได้ผลอย่างไร ก็อย่าลืมบอกคนที่คุณรู้จักด้วยนะ วิธีการเหล่านี้ได้ผลจริง ซึ่งวิธีการเหล่านี้นั้นเป็นข้อมูลจากทางศูนย์รถยนต์โดยตรง ซึ่งเราคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://pixabay.com
ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook