แบตเตอรี่หมด รถสตาร์ทไม่ติด

แบตเตอรี่หมด

แบตเตอรี่หมด รถสตาร์ทไม่ติด ไม่ต้องจั๊มแบตเตอรี่ ไม่ต้องมีตู้ชาร์จ…รถติดได้ แค่มีตัวช่วยตัวนี้

ถ้าคุณมีปัญหาแบตเตอรี่เสื่อม แบตเตอรี่หมด รถสตาร์ทไม่ติด บทความนี้พลาดไม่ได้ เพราะเทคนิคที่เอามาแบ่งปันให้คุณได้นำไปใช้ในครั้งนี้  คุณจะไม่ต้องจั๊มแบตเตอรี่ ไม่ต้องถอดแบตเตอรี่ไม่ชาร์ต และไม่ต้องใช้ตู้ชาร์ตด้วย  แต่คุณต้องมีตัวช่วยบางตัว สิ่งนั้นมันคืออะไร ไปติดตามอ่านกันดูเลย

รถสตาร์ทไม่ติด แต่คุณไม่มีสายจั๊มแบตเตอรี่ ไม่มีตู้ชาร์ต เราจะมีวิธีการอย่างไรให้รถสตาร์ทติด

อุปกรณ์หรือตัวช่วยที่ดีมากๆก็คือ ตู้เชื่อมที่ใช้ในงานช่าง หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าตู้เชื่อมสามารถใช้ชาร์ตแบตเตอรี่รถยนต์ได้ด้วย ซึ่งตัวเชื่อมที่ว่านี้ก็เป็นตัวเชื่อมที่ใช้ทั่วๆไป ขนาด 160 แอม ซึ่งบ้านหลังไหนที่มีตู้เชื่อมที่ว่านี้ก็นำสามารถมาเป็นตัวช่วยได้อย่างดีในกรณีที่รถแบตเตอรี่หมดหมดสตาร์ทไม่ติด สามารถนำประโยชน์จากตู้เชื่อมมาใช้ประโยชน์ได้

วิธีการชาร์ตแบตเตอรี่รถยนต์จากตู้เชื่อม

1..ขั้นตอนแรกให้ทำการต่อตู้เชื่อมตามปกติ สีแดงเข้าขั้วบวก สีดำเข้าขั้วลบ จากนั้นมาตั้งแอมให้อยู่ระหว่างเลข 20 ถึงเลข 50 อย่าให้เกินนี้ หรือถ้าจะให้ดีก็คือหมุนให้มันอยู่ในระดับเลขต่ำสุดไปเลยเพื่อความชัวร์

2.ส่วนวิธีการคีบแบตเตอรี่ก็เหมือนการชาร์ตแบตเตอรี่ทั่วไปคือให้นำหัวคีบเชื่อมที่เป็นขั้วบวกนำมาคีบกับขั้วบวกของแบตเตอรี่  จากนั้นให้นำสายกราวมาคีบกับขั้วลบ ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกันกับการชาร์ตแบตเตอรี่รถยนต์นั่นเอง

3.ต่อไปจึงทำการเปิดตู้เชื่อม และจะชาร์ตทิ้งไว้ในเวลาประมาณ 1 นาที

4.เมื่อครบ 1 นาที ลองทำหารสตาร์ทรถดูว่าเครื่องยนต์จะติดจริงไหม ซึ่งคุณก็จะพบว่ารถสตาร์ทติดได้จริง

และนี่เป็นวิธีใช้ตัวเชื่อมเป็นตัวช่วยในการช่วยสตาร์ทรถยนต์ให้ติด ซึ่งสิ่งที่สำคัญในการเอาตู้เชื่อมมาชาร์ตแบตเตอรี่รถยนต์

1.เมื่อเวลาที่คีบขั้วแต่ละขั้วต้องคีบให้ถูก ต้องจำขึ้นใจเลยว่า ด้านที่เป็นหัวเชื่อมให้คีบที่ขั้วบวก สายกราวมาทำการคีบที่ขั้วลบ

2.การชาร์ตแบตเตอรี่วิธีนี้ต้องกทำการปรับแอมไปที่แอมต่ำที่สุด และทำการชาร์ตเพียงแค่ 1-3 นาที เพื่อให้รถของเราสตาร์ทติด อย่าทำการชาร์ตนานมากกว่านี้ อาจเกิดการเสียหาย

อย่างไรก็ตามการชาร์ตแบตเตอรี่วิธีนี้ เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยการนำเครื่องมือ ของใช้ในบ้านมาใช้ประโยชน์แก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อให้รถของคุณสตาร์ทติ แต่ในที่สุดคุณก็ต้องนำแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณไปตรวจและบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีและได้มาตรฐาน เพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่รถยนต์ และความปลอดภัยในการใช้รถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Facebook
Twitter