ในบทความตอนที่ 1 ได้เรียนรู้กับ 5 สิ่งที่ควรจะทำในการตรวจเช็ครถให้เป็นนิสัยไปแล้ว บทความนี้ ตามมาดูกันเลยดีกว่าว่า 5 สิ่งที่เหลือที่ควรเช็ครถยนต์ของคุณจะมีอะไรอีกบ้าง ไปเรียนรู้เพื่อการลงมือปฏิบัติให้เป็นนิสัยกันดีกว่า

6.การตรวจเช็คลมยางทั้ง 4 ล้อ รวมทั้งยางอะไหล่ให้เป็นนิสัย เช่นอาทิตย์ล่ะครั้ง เพราะลมยางมีผลต่อการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ถ้ายางแบนทำให้เกิดการสึกหล่อเร็ว และกินน้ำมัน แต่ถ้าเนื้อยางแข็งไปเนื้อยางก็จะเสท่อมสภาพเร็ว คุณต้องเสียงบประมาณในการเปลี่ยนยางเร็วขึ้น จากอายุยางเฉลี่ย 5 ปี อาจจะเหลือแค่ 3 ปีครึ่ง หรือ 4 ปีเท่านั้น และสำหรับยางอะไหล่ก็ควรเช็คลมไว้ให้พร้อมสำหรับการใช้งานฉุกฌแน ไม่เช่นนั้น ยางอะไหล่จะไม่ประโยชน์อะไรเลยในยามที่คุณต้องการ

7.ระยะทางหรือเลขไมล์ ไม่ว่าคุณจะซื้อรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการรีเซ็ตเลขไมล์ เพื่อนับระยะการใช้งานจริงของคุณ เพราะคุณจะต้องตรวจเช็คว่าคุณใช้งานในระยะเท่าไหร่แล้ว ตั้งเปลี่ยนชิ้นส่วนใดบ้าง เติม หรือเปลี่ยนของเหลวอะไรบ้าง ต้องเปลี่ยนสายพานหรือยัง? สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยเลขไมล์ที่ถูกต้องเป็นหลัก
8.ไม่ว่าบ้านคุณจะใช้รถคันหนึ่งกี่คน ใครขึ้นขับก็ต้องเช็ค ว่า หม้อน้ำขาดน้ำไหม ที่ปัดน้ำฝนมีน้ำพอไหม ลมยางอ่อนไปไหม อย่าไปคิดว่าคนอื่นเช็คแล้วเราไม่ต้องเช็ค เพราะนั่นคือความปลอดภัยโดยตรงของตัวคุณเอง

9.ควรติดตามราคาน้ำมันเป็นประจำ เพราะว่าถ้าวันนี้น้ำมันขึ้นราคา และในรถของคุณก็มีน้ำมันเหลือครึ่งถังอยู่แล้วคุณก็ยังไม่ควรต้องเติม เพราะน้ำมันมันแพง แต่ถ้าวันไหนน้ำมันลดคุณควรอัดให้เต็มถังไปเลย เพราะราคาน้ำมันบ้านเรา เวลาขึ้นๆ 50 สตางค์ แต่เวลาลดลดแค่ 25 สตางค์ ดังนั้นต้องจับตาดูเสมอๆ เพื่อจะได้ประหยัดค่าเชื้อเพลิง ถ้าคิดเป็นต่อปี 25,50 สตางค์ก็ประหยัดได้มากอยู่
10. การต่อภาษี พ.ร.บ. ประกันภัย ทะเบียนรถยนต์ หลายคนปล่อยให้ภาษี ทะเบียน ประกันขาด 3-4 เดือน หรือเป็นปีแล้วไม่ต่อ เพราะลืม สิ่งเหลานี้เป็นสิ่งต้องทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อเวลาที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายคุณได้อย่างมาก พวกบริษัทประกันจะได้ช่วยชำระให้คุณจะได้ไม่ต้องจ่ายหยักมาก
ทั้งหมดนี้เป็น 10 สิ่งที่คุณคอยตรวจเช็ครถยนต์คู่ใจของคุณอย่างสม่ำเสมอจนเป็นนิสัย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคุณเอง และรักษาสภาพของรถให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์กับคุณไปนาน ทำเถอะแล้วคุณจะไม่ต้องกังวลกับการขับขี่รถยนต์อีกต่อไป ไม่ว่ากรณีไหน
ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com