บริษัท Hyundai เรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้าหลังเกิดไฟไหม้

บริษัท Hyundai เรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้า

ในโลกยุคปัจจุบันนี้หลายสิ่งหลายอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างมากเพื่อให้ตอบสนองต่อผู้บริโภคที่ต้องการความทันสมัยอยู่ตลอดเวลาและเพื่อลดภาวะโลกร้อนที่กำลังเป็นปัญหาของทั้งโลกในปัจจุบันนี้ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่นั้นเริ่มหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนที่รถยนต์ใช้น้ำมันและหนึ่งในบริษัทที่ทำการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าก็คือบริษัท Hyundai ของเกาหลีนั่นเอง

บริษัท Hyundai เรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้า

รถยนต์ไฟฟ้าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ใช้ในการเดินทางแถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งในปัจจุบันก็มีผู้บริโภคหลายคนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนการใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นจำนวนมากและสถานที่ให้บริการน้ำมันหลายที่ก็เริ่มที่จะมีสถานีชาร์จไฟฟ้าให้กับรถยนต์ไฟฟ้าแล้วทำให้อนาคตรถยนต์ไฟฟ้าก็จะกลายเป็นเทรนรถยนต์ที่เข้ามาเปลี่ยนเทคโนโลยียานยนต์ อย่างไรก็ตามรถยนต์ไฟฟ้านั้นก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยเสมอไป

ล่าสุดบริษัทHyundai หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้าเป็นจำนวนมากเพราะว่าเกิดอุบัติเหตุกลับรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีการเผาไหม้ที่แบตเตอรี่รถยนต์ทำให้ต้องเรียกรถยนต์ส่วนใหญ่กลับเข้ามาเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ซึ่งสาเหตุก็มาจากการที่ไฟฟ้าลัดวงจรนั่นเองการเรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้าครั้งนี้มีมูลค่าสูงมาก ประมาณ 1 ล้านล้านวอนเลยทีเดียว

บริษัท Hyundai เรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้า

เป็นที่โชคดีที่เหตุอุบัติเหตุจากการไฟฟ้าลัดวงจรที่แบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า Hyundai นั้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ตามบริษัทฮุนไดก็คงจะต้องระมัดระวังและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้แบตเตอรี่ให้มากขึ้นอย่างแน่นอนเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดเช่นนี้เกิดขึ้น ซึ่งแบตเตอรี่ที่รถยนต์ Hyundai ใช้ในการประกอบรถยนต์นั้นเป็นของบริษัท LG และในปัจจุบันนั้นกำลังมีการเจรจาเพื่อตกลงว่าใครจะเป็นผู้ชดใช้ค่าเสียหาย

บริษัท Hyundai เรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้า

ถึงแม้ว่าจะเป็นรถยนต์ในทางเลือกใหม่และมีทิศทางที่จะเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยียานยนต์ในโลกอนาคตแต่อุบัติเหตุก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในตัวของรถยนต์ จากเหตุดังกล่าวคงทำให้บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าหลายรายต้องกลับไปพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอนเลย

TAG #Hyundai #รถยนต์ไฟฟ้า #รถยนตร์พลังงานไฟฟ้า #รวมเรื่องรถ #automotive-story.com

ข้อมูลจาก CNN

Cr.Pixabay

กระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรงกับประเทศจีน

รถยนตร์พลังงานไฟฟ้า

เมื่อพูดถึงประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกครั้งที่เป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจและทางด้านประชากรในทวีปเอเชียก็คงจะนึกถึงประเทศจีนเป็นอันดับแรก ๆ เลย ด้วยความที่เป็นประเทศที่ใหญ่และมีประชากรเป็นจำนวนมากทำให้ประเทศจีนกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ประสบปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมรวมไปถึงปัญหาสภาวะทางด้านการจราจร โดยประเทศจีนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาสภาพสิ่งแวดล้อมรวมไปถึงปัญหาใหญ่ของโลกอย่างปัญหาภาวะโลกร้อนทำให้ประเทศจีนนั้นเริ่มมีกระแสรถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้น

รถยนตร์พลังงานไฟฟ้า1

โดยบริษัท The Hong Guang Mini EV ได้ร่วมมือกับบริษัทของอเมริกาอย่าง General Motor ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใช้ในประเทศจีนเพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาโลกร้อนโดยรถยนต์ไฟฟ้าของทางบริษัทดังกล่าวนั้นจะมีขนาดที่เล็กเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการจราจรในประเทศจีน โดยรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กนี้มีราคาถูกแถมใช้สะดวกสบายอีกด้วยอย่างไรก็ตามเมื่อเป็นรถขนาดเล็กทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ประชากรชาวจีน โดยทำยอดขายเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วไปถึง 24,000คัน  และตัวรถยนต์สามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 100Km/Hr

รถยนตร์พลังงานไฟฟ้า2

โดยบริษัท The Hong Guang Mini EV มีแผนที่จะจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าไปในต่างประเทศ ในปัจจุบันนี้ประเทศจีนนั้นมีแหล่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายที่มากแถมราคายังมีราคาที่ถูกอีกด้วยและทางรัฐบาลเองก็มีการผลักดันให้ประเทศจีนเป็นผู้นำทางด้านกระแสรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อน โดยรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท The Hong Guang Mini EV ในประเทศจีนยังมียอดขายสูงขึ้นเรื่อย ๆ

รถยนตร์พลังงานไฟฟ้า3

จากการที่มีรถยนต์ไฟฟ้าถูกผลิตอย่างมากในปัจจุบันทำให้เราสามารถบ่งบอกได้ว่าในอนาคตนี้รถยนต์ส่วนใหญ่จะถูกเปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมดเพื่อให้ตอบสนองต่อการแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อนและรถยนต์ไฟฟ้ายังมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าน้ำมันอย่างมาก โดยอีกส่วนหนึ่งก็คือน้ำมันนั้นเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปแต่ทรัพยากรไฟฟ้านั้นสามารถผลิตขึ้นได้จากช่องทางมากมายไม่ว่าจะเป็นพลังงานลมหรือพลังงานแสงอาทิตย์ก็สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ดังนั้นในอนาคตเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมยานยนต์นั้นจะต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากแน่นอนเลย

Tag #รถยนต์ไฟฟ้า #รถยนตร์พลังงานไฟฟ้า #จีน #รวมเรื่องรถน่ารู้ #automotive-story.com

ข้อมูลจาก BBC และ Autodeft

Cr.Pixabay, China’map,Wikipedia

Volvo จะเปลี่ยนรถยนต์เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2030

Volvo จะเปลี่ยนรถยนต์เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2030

ในปัจจุบันนี้โลกของเรานั้นได้ร้อนขึ้นอยู่ในทุก ๆ ปีและคนทั่วทั้งโลกก็กำลังเริ่มที่จะตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวที่ต้องร่วมช่วยกันแก้ปัญหา และเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นก็มีความสามารถที่จะช่วยแก้ปัญหาโลกร้อนได้ด้วยเช่นเดียวกัน ปัญหาโลกร้อนนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเผาไหม้ ขยะ และ อื่น ๆ และหนึ่งในเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวนี้ก็คือรถยนต์ไฟฟ้า

volvo รถยนตร์ไฟฟ้า

เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบันทำให้รถยนต์ส่วนใหญ่นั้นเริ่มที่จะมาใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานในการขับเคลื่อนแทนน้ำมันที่เป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปแถมยังเป็นทรัพยากรที่เมื่อนำมาใช้แล้วยังทำให้เกิดภาวะโลกร้อนอีกด้วย ตอนนี้หลาย ๆ บริษัทผลิตรถยนต์กำลังที่จะเดินหน้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโดยที่เราเห็นกันแล้วก็คงจะเป็นบริษัท Tesla ของอีลอน มัสก์ ที่ได้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามาให้ใช้แล้วในปัจจุบัน และอีก 1 บริษัทที่กำลังเดินหน้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าก็คือบริษัท Volvo

volvo รถยนตร์ไฟฟ้า

Volvo เป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกและมีผู้นิยมใช้รถยนต์ยี่ห้อนี้ซึ่งทางบริษัทนั้นมีแผนที่จะเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมันทั้งหมดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2030 เหลืออีกประมาณ 10 ปีข้างหน้านี้ และทาง Volvo เองก็เชื่อว่าจะตอบสนองต่อผู้บริโภคได้หลายยังเป็นการช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย

และเมื่อเปลี่ยนรถยนต์ใช้พลังงานน้ำมันเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดแล้ว Volvo ตัดสินใจที่จะเดินลงทุนในการทำตลาดออนไลน์มากขึ้นให้เหมือนกับบริษัทเทสล่าที่ขายรถยนต์ทางออนไลน์ เมื่อบริษัทรถยนต์รายใหญ่นั้นเริ่มทำการเปลี่ยนรถยนต์จากรถยนต์ใช้น้ำมันมาเป็นรถยนต์ใช้ไฟฟ้าบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันก็กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกันเพื่อช่วยลดปัญหาโลกร้อนให้ลดลงให้ได้มากที่สุด นอกจากจะช่วยลดปัญหาโลกร้อนแล้วยังลดต้นทุนอีกด้วยเพราะมีการคาดการณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นจะมีราคาที่ถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน

volvo รถยนตร์ไฟฟ้า

เทคโนโลยียานยนต์เป็นเทคโนโลยีแรก ๆ ที่มีการผลิตเพื่อบรรเทาปัญหาโลกร้อนและในอนาคตที่โลกมีความก้าวล้ำไปมากกว่านี้คงมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวที่เป็นปัญหาระดับโลก

TAG #รถยนต์ไฟฟ้า #Volvo #รวมเรื่องรถ #aotomotive-story.com

ข้อมูลจาก CNN

Cr. Pexels ,Pixabay

เทคนิคการล้างรถให้สะอาดแบบไม่ต้องง้อร้าน ทำยังไง

เทคนิคการล้างรถให้สะอาดแบบไม่ต้องง้อร้าน ทำยังไง

การล้างรถเป็นกิจกรรมที่หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยหลงใหลกันสักเท่าไหร่ แต่จะให้ขยันเข้า car care ก็ไม่ไหวจ่าย วันนี้ก็เลยจะมาแชร์ขั้นตอนการล้างรถแบบไม่ยุ่งยาก แค่ 8 ขั้นตอนเท่านั้น อย่าปล่อยให้รถคันงามของคุณไม่น่ามองและดูเก่าในที่สุดกันนะ การล้างรถยนต์ ที่ถูกวิธี ควรทำอย่างไรบ้าง มาล้างรถ อย่างถูกวิธีกันเลยยยยย

เทคนิคการล้างรถ

ขั้นตอนการเตรียมพร้อมสำหรับล้างรถยนต์

  1. ควรนำรถไปจอดในที่ร่ม ไม่ควรล้างรถกลางแดด เพราะการล้างรถกลางแจ้ง จะทำให้ผิว รถยนต์ ของคุณร้อนและแห้งเร็วเกินไป ซึ่งจะทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวรถ ทำให้ล้างทำความสะอาดยากขึ้นไปอีกและเสียเวลา
  2. เตรียมอุปกรณ์ล้างรถ ให้พร้อม มีอะไรบ้าง?

-ใช้ถังน้ำ 2 ใบ สำหรับใส่น้ำยาล้างรถ และสำหรับซักผ้าหรือล้างฟองน้ำ

-ฟองน้ำ หรือ ผ้าล้างรถ ควรเตรียมไว้สัก 2 ผืน สำหรับล้างผิวรถยนต์กับสำหรับล้างล้อรถยนต์

-แปรงพลาสติกสำรหรับขัด ถ้ายางรถยนต์ของคุณสกปรกมาก ๆ ให้ใช้แปรงพลาสติกขัดทำความสะอาดได้

-ผ้าไมโครไฟเบอร์ ควรเตรียมไว้สักประมาณ 3 ผืน สำหรับใช้แต่ละส่วน แยกผ้าเช็ดผิวรถ ไม่ใช้ปนกับผ้าเช็ดล้อรถ เพราะถ้าใช้ผ้าเช็ดล้อแล้วมาเช็ดผิวรถ อาจจะทำให้เกิดรอยขนแมวที่ผิวรถยนต์ของคุณได้

-ผสมน้ำยาล้างรถกับน้ำเปล่า ในปริมาณที่พอเหมาะ และเตรียมถังน้ำเปล่าสำหรับล้างฟองน้ำให้พร้อม

เทคนิคการล้างรถ2

ขั้นตอนการล้างรถยนต์

1.ฉีดน้ำเพื่อขจัดคราบสกปรกก่อน

การฉีดน้ำก็เพื่อทำการขจัดคราบสกปรก ซึ่งจะช่วยให้ฝุ่นหรือสิ่งสปรกที่อยู่บนผิวรถยนต์ อ่อนตัวลง โดยฉีดน้ำทั้งคันไล่จากบนหลังคารถ ลงมาด้านข้างของรถ

2.ทำการล้างส่วนล้อรถยนต์กันก่อน

ใครหลายๆ คน ส่วนใหญ่จะคิดว่าควรจะล้างที่ตัวรถก่อน แต่ล้อรถมักจะเป็นส่วนที่สกปรกที่สุด เราจึงควรจะล้างส่วนล้อรถยนต์ให้สะอาดเสียก่อน เพื่อกำจัดที่สิ่งสกปรกออกจากล้อจะได้ไม่กระเด็นไปโดนส่วนผิวรถที่ทำความสะอาดแล้ว ที่สำคัญหากเราล้างล้อรถยนต์เป็นลำดับสุดท้าย ขณะที่กำลังล้างล้อรถยนต์ จะทำให้ผิวรถอาจจะแห้งเอง และจะทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวรถของคุณได้

เทคนิคการล้างรถ

3. เริ่มล้างรถจากบนหลังคารถ ลงมาด้านข้างของรถ

ก่อนจะเริ่มขัดผิวรถ ให้แช่ผ้าหรือฟองน้ำล้างรถในน้ำยาที่ผสมไว้แล้วก่อน แล้วค่อยนำมาขัดทำความสะอาดผิว ไม่ควรออกแรงขัดมากเกินไป เพราะจะทำให้รถยนต์เกิดรอยขีดข่วนหรือทำให้สีรถยนต์เสียหายได้

4. ล้างสิ่งสกปรกออกจากฟองน้ำ หรือผ้าที่ใช้ขณะล้างรถบ่อย ๆ

ผ้าล้างรถไมโครไฟเบอร์ เป็นที่นิยมมากกว่าฟองน้ำ เนื่องจากโอกาสที่จะเกิด รอยขีดข่วน หรือ รอยขนแมวบนรถยนต์ ของคุณมีน้อยกว่า เพราะฟองน้ำล้างรถอาจจะมีเศษฝุ่นเม็ดทรายเล็ก ๆ ติดอยู่ตามตามรูพรุนของฟองน้ำได้ แต่ถ้าใช้ฟองน้ำ คุณควรจะล้างทำความสะอาดฟองน้ำบ่อย ๆ

5. หลังจากล้างน้ำยาแต่ละส่วนเสร็จ ให้ฉีดน้ำล้างน้ำยาล้างรถออกให้หมด

ไม่ควรปล่อยให้น้ำยาล้างรถแห้งบนผิวรถ เพราะถ้าปล่อยให้แห้งเองจะทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวรถ ควรทำแบบนี้ทุกครั้ง เมื่อล้างเสร็จทั้งคันแล้ว ให้ล้างน้ำเปล่าซ้ำอีกครั้ง

6. ควรให้รถเปียกทั้งคันขณะล้างรถ

ขณะที่ล้างควรให้ผิวรถยนต์ทั้งคันเปียกน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดคราบน้ำบนผิวรถ

7. ล้างช่วงล่างเป็นลำดับสุดท้าย

ควรใช้ ฟองน้ำ หรือ ผ้าล้างรถยนต์ แยกกันต่างหาก ไม่ใช้ปนกัน

8. เช็ดรถให้แห้งด้วย ผ้าไมโครไฟเบอร์

อย่ากลัวที่จะต้องใช้ผ้าหลายผืนในการเช็ดรถ เพราะถ้าแยกผ้าเช็ดหลายผืนโอกาสที่ผิวรถจะเกิดรอยขีดข่วนก็มีน้อย ควรเช็ดทุกผิวรถให้แห้ง เพื่อป้องกันการเกิดสนิม และการเกิดคราบน้ำ เช็ดผิวโดยไล่จากด้านบนหลังคารถยนต์ลงมาด้านล่างรถยนต์ และเช็ดล้อเป็นลำดับสุดท้าย เป็นอันเสร็จขั้นตอนการล้างรถอย่างถูกวิธีแล้วจ้า

เพียงเท่านี้ รถแสนรัก คู่ใจของคุณ ก็จะกลับมาสะอาด น่าใช้งานเหมือนเดิม แต่ถ้าท่านไหนที่ยังพอมีเวลาก็อาจจะลงแว็กซ์เพิ่มได้นะเพิ่มนะ เพื่อเพิ่มความเงางาม ฉ่ำเป็นประกายดุจรถใหม่ และปกป้องสีผิวรถยนต์ คันโปรดจากมลภาวะบนท้องถนน

เทคนิคการล้างรถ

Tag #เทคนิคการล้างรถให้สะอาดแบบไม่ต้องง้อร้าน ทำยังไง #รวมเรื่องน่ารู้ #automotive-story.com

เรื่องนี้ต้องรู้ ก่อนทำการเคลมกับบริษัทประกันภัย

เรื่องนี้ต้องรู้ ก่อนทำการเคลมกับบริษัทประกันภัย

ของคู่กับกับรถของคุณ ที่ขาดไม่ได้เลย คือ ประกันภัย นั่นหมายถึง หากคุณมีรถ คุณต้องทำประกันภัยให้กับรถของคุณ ซึ่งระยะประกันภัยมีอายุเพียง 1 ปี ซึ่งก็หมายถึง คุณต้องทำการต่อประกันรถทุกปี เพื่อให้รถของคุณปลอดภัย และมีหลักประกันจากทางบริษัท

การเลือกบริษัทประกันภัยจึงสำคัญ เพราะบริษัทนั้นจะต้องดูแลรถของคุณตลอดระยะเวลาหนึ่งปี เปรียบเสมือนการหาคู่ครอง ถ้าเลือกได้ดีก็ดีไป ถ้าเลือกผิดก็ถือว่าพลาด เพราะบางบริษัทดูแลรถคุณเป็นอย่างดี บางบริษัทพยายามเลี่ยงการดูแลรถของคุณ

แล้วถ้าเกิดอะไรกับรถของคุณ จะมีวิธีการจัดการกับบริษัทประกันอย่างไร เพื่อให้ได้รับการเคลมเป็นอย่างดี วันนี้เรามีเทคนิคการจัดการให้ได้รับค่าเคลมไว้ตามประสาเซียนรถไว้  ดังนี้

automotive-story

1. ประกันชั้นหนึ่ง

กรณีที่หนึ่ง  – ขับรถไปตามปกติแล้วรถยางแตก รั่ว >>> ไม่จ่าย

กรณีที่สอง  – เกิดอุบัติเหตุแล้ว ยางแตกหรือรั่ว  >>>  จ่ายครึ่งราคายางใหม่

* เทคนิค* ถ้าขับรถไปยางแตกหรือรั่ว เปลี่ยนยางแล้วเก็บยางไว้ รอเกิดอุบัติเหตุแล้ว แจ้งความเสียหาย ว่ามียางแตกด้วย

2. ประกัน 3+

กรณีที่หนึ่ง  – หากคุณชนกับอย่างอื่นที่ไม่ใช่รถ เช่น เสาหรือหลัก  >>> ไม่จ่ายเวลา

* เทคนิค* หาเพื่อนหรือคนรู้จักที่รถมีแผล มาจัดฉากร่วมกัน ขอให้เนียนด้วย แล้วค่อยโทรแจ้งประกัน

3. การเคลมประกัน ทำสีรอบคัน

หากคุณเรียกประกันมาเคลมโดยการทำสีรอบคันที่เดียว คุณอาจจะโดนค่าเสียหายเยอะเลย

*เทคนิค*  วางแพลนการเข้าเคลม โดยเคลมทีละฝั่งอาจจะฝั่งขวาก่อน แล้วทิ้งระยะห่างประมาณ 15-20 วัน แล้วค่อยทำฝั่งขวา แล้วทิ้งระยะค่อยทำด้านหน้า ด้านหลัง และไม่ควรเคลมเกินครั้งละ 5 จุด เน้นเฉพาะจุดใหญ่ๆ อดทนรอเวลาอาจจะไม่ได้เร็วเท่าการเคลมทีเดียวทั้งคัน อาจใช้เวลานานหน่อย แต่ก็คุ้มค่ามากกว่า ได้เคลมทุกชิ้นแน่นอน เสร็จแล้วก็รวบรวมใบเคลมทั้งหมด ไปที่อู่ที่รับเคลมประกันพร้อมกับแจ้งว่า มีใบเคลมทั้งหมด ทำสีรอบคัน ถ้าขาดไปชิ้น สอง ชิ้น ส่วนใหญ่จะไม่คิดเงินเพิ่ม

automotive-story2

วิธีการเลือกบริษัทประกันภัยที่ทำให้คุณคุ้มค่ากับการดูแลรถ

1. เลือกบริษัทที่ให้ข้อมูลคุณได้ครบ ตอบคำถามคุณได้ว่า เคสไหน เคลมประกันทำได้ เคลมประกันทำไม่ได้ เคสนี้ควรทำยังไง บริษัทที่ดีจะไม่ปิดบังข้อมูลกับคุณ

2. เข้าไปหาข้อมูลกับอู่โดยตรงเลยว่า บริษัทไหน ที่ทางอู่ไม่รับรถมาทำบ้าง เพราะประกันที่อู่ส่วนมากรับทำ จะเป็นบริษัทประกันที่มีความน่าเชื่อถือ

3. หากคุณไม่เคยเคลมเลย ตลอดทั้งปีนั้น คุณจะต้องได้รับส่วนลดขับดี

การไม่เสียเปรียบผู้อื่น ถือเป็นการรักษาสิทธิของตัวคุณเอง แต่ก็ไม่ควรเอาเปรียบผู้อื่นเช่นกัน การที่

แนะนำเทคนิคการเคลมประกันให้ได้ค่าเคลมนี้ เป็นการแนะนำเพื่อให้คุณไม่เสียเปรียบผู้อื่น แต่ไม่ได้มีเจตนาแนะนำให้คุณเอาเปรียบผู้อื่นแต่อย่างใด ดังนั้น การจะทำสิ่งใด ควรคำนึงถึงใจเขาใจเรา ไม่ทำในสิ่งที่ไม่ควร เพื่อสังคมที่สงบสุข

Tag #ประกันภัยรถยนต์  #การเคลมกับประกันภัย  #บริษัทประกันภัย #รวมเรื่องน่ารู้ #auotomotive-story.com

Honda City ปี 1996 เก่า แต่ เก๋า

feature image Honda City ปี 1996

สวัสดีครับ…

วันนี้ผมอยากพูกถึงค่ายรถยนต์ค่ายหนึ่ง คือ  Honda ซึ่งรถยนต์ค่ายนี้อาจจะมีรถยนต์อยู่มากมายหลายรุ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นผมขออนุญาตยกตัวอย่างรถในอดีตรุ่นนึง ที่เรายังสามารถเห็นได้บนท้องถนนทั่วไปในปัจจุบันนั้นก็คือ Honda City ปี 1996

เนื่องจากรถรุ่นนี้ได้ผลิตออกมา เป็น 2 ระดับ 3 รุ่นย่อย (2 ระดับ 3 รุ่นย่อย เพราะระดับตัวท็อปมี2รุ่นย่อยนั้นเอง) คือ Li (ตัวล่าง), LXi (ตัวท็อปเกียร์ธรรมดา) , EXi (ตัวท็อปเกียร์โอโต้) และรถยนต์รุ่นนี้มีจุดเด่นหลายอย่าง แต่เครื่องยนต์ของรถรุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์ขนาด 1300 ซีซี ซึ่งจะต้องเกิดคำถามแน่ๆว่า “วิ่งไหวหรอ” ผมขอตอบได้โดยไม่ต้องคิดเลยนะคับ ว่าวิ่งไหวและวิ่งได้ไวมาก (ยิ้มอ่อนๆ) เพราะปัจจุบันรถรุ่นที่ได้กล่าวไป เป็นรถคู่ใจของผมครับ 555 (ปี2564) โอ้โห้!!! รถมีอายุ 25 ปี แล้วหรอ ก็ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาเลยใช่มั้ยครับ จริงๆแล้วผมอยู่กับรถคันนี้มาเป็นเวลา 12 ปีเท่านั้น เพราะผมได้รถคันนี้มาปี 2552 (ผู้ครอบครองคนที่ 7 เลยทีเดียวฮะ) อย่าเรียกรถของผมว่ารถมือสองนะครับ

Honda City 1996

โดยรถคู่ใจของผมเป็นเครื่องเดิมๆ บอดี้เดิมๆ ครับ (แต่ทำสีใหม่ครับ) ปัญหาที่พบบ่อยๆของรถรุ่นนี้ก็อาจจะเป็นอาการของรอยเยิ้มๆของน้ำมันในอุปกรณ์ต่างๆของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันในการหล่อลื่น เช่น ซีลรอบเครื่องยนต์ (ส่วนนี้เยิ้มเป็นเรื่องธรรมดาเลยครับ) วิธีการแก้ไขคืออย่างแรกต้องหาอู่ที่สามารถแก้ไขอาการได้โดยตรงแบบจบแต่เจ็บราคาหรือข้อมูลก็สามารถหาได้ในกลุ่มรถรุ่นเดียวกัน ซึ่งเดี๋ยวจะแจ้งข้อมูลให้ท้ายบทความนี้นะครับ 

ส่วนที่สองก็คงเป็นแร็คพวงมาลัยพาวเวอร์อันนี้ก็ตามอายุการใช้งานนะครับซึ่งราคาของชิ้นนี้ก็อยู่ที่หลักพัน อย่างอื่นๆที่พบเจอก็จะมีแอร์ที่ไม่เย็น ซึ่งจริงๆแล้วก็เกิดจากคอมเพรสเซอร์แอร์เสียอันนี้ราคาแรงพอตัวถ้าเปลี่ยนใหม่ แต่ก็มักจะมีทางเลือกให้อยู่เสมอ 555 คือ เบิกศูนย์มือหนึ่งราคาเหยียบๆหมื่น หรือ อะไหล่มือสอง หรือป่าวไม่รู้ 555 ของเชียงกงเลย(ตาดีได้ตาร้ายเสีย) อันนี้การันตีก็น่าจะอยู่ที่ 1-6 เดือนแล้วแต่ร้านครับ

Honda City 1996

ส่วนสายพานราวลิ้นต่างๆ ลูกยางกันกระแทกของเหล่านี้ก็จะเสื่อมจากการใช้งานอยู่แล้วครับซึ่งความร้อนทำให้ยางเสื่อมเป็นเรื่องธรรมดาครับ โอ้วววว พูดไปก็ไม่หมดถึงเรื่องของอะไหล่หรือการซ่อมแซมของรถรุ่นนี้ที่ทำให้ใช้งานได้มาจนถึงปัจจุบัน แต่ของบอกเลยนะครับ มันคือความสุขอย่างหนึ่งที่มีรถคู่ใจคันนี้อยู่ด้วยกันเลยแหละครับ  ซ่อมไปขับไป นี่มันช่างดีเหลือเกิน ฮ่าๆๆๆ

#Honda City 1996 #Honda City #Honda #รวมเรื่องรถ #auto motive story

หารถคู่ใจสักคันกับ TOYOTA SIENTA 2019

feature image TOYOTA SIENTA 2019

ในการที่เราจะเสียเงินซื้อรถคู่ใจสักคันนึง ให้เกิดความคุ้มค่าที่สุดคงจะต้องคิดและคำนวณถึงอะไรหลายๆอย่าง เช่น ราคา การใช้งาน Optionต่างๆของตัวรถ รุ่นที่ถูกใจ สีที่โดนใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเชื่อมั้ยว่าสิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายที่เราจะยอมเสียเงินก้อนใหญ่ได้ ก็คือ ความชอบส่วนตัว ของเรานี่เองหรือจะเปรียบเทียบได้กับประโยคที่ว่า “รักแรกพบ”

วันนี้แอดจะขอพูดถึงรถที่แอดใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ที่ยอมเสียเงินสดก้อนใหญ่เพื่อแรกกับความต้องการที่ได้มา เรามาชมรถคู่ใจหรือรักแรกพบของรถคันนี้กันดีกว่า TOYOTA  SIENTA 2019 เป็นรถอเนกประสงค์ที่มีถึง 7 ที่นั่ง และรถรุ่นนี้ทำออกมาแค่ 2 รุ่น คือ รุ่นตัวG และ รุ่นตัวV ขนาดของเครื่องยนต์ 1,500 CC เท่ากัน ตอนนี้มาดูเรื่องของราคาของทั้ง 2 รุ่นกันดีกว่า ว่ารุ่น G กับ V ดีกว่าและแตกต่างกันแค่ไหน

  • TOYOTA SIENTA 2019 รุ่น G ราคา อยู่ที่ 765,000 บาท
  • TOYOTA SIENTA 2019 รุ่น V อยู่ที่ 875,000 บาท

โอ้โห้…. ราคาแตกต่างกันอยู่ประมาณ 110,000 บาทเชียว แล้วอะไรหล่ะ ที่จะทำให้แอดมาเลือกรุ่นในรักแรกพบได้… ก่อนอื่นเลยขอดูเงินในบัญชีก่อน 5555(พูดเล่นนะจ๊ะ) เฉลยเลยก็แล้วกันที่ยอมให้ใจเลือกซื้อ TOYOTA  SIENTA รุ่นตัวV  ซึ่งจุดที่ยอมเสียเงินแสนเพื่อแลกกับความแตกต่างหลักๆที่ได้มาก็คือ แท่น แทน แท๊น…….

TOYOTA SIENTA 2019 TOYOTAรถยนตร์ 7 ที่นั่ง TOYOTA
  1. เบาะหนัง
  2. พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
  3. Push Start
  4. Smart Entry
  5. ประตูไฟฟ้าระบบอัตโนมัติ
  6. กล้องรอบทิศทาง
  7. จอเพดาน LED 8 นิ้ว
TOYOTA SIENTA 2019 TOYOTAรถยนตร์ 7 ที่นั่ง TOYOTA 2

ซึ่งถ้าถามว่าคุ้มมั้ย…ตอบได้เลยว่าคุ้มมากกกกกกกกก เพราะมันได้ตอบโจทย์ความต้องการส่วนตัวของแอด ทั้งราคา การใช้งานหลักๆ หรือ Optionต่างๆที่ตัวรถมี ขอบอกว่าเขาคือ รักแรกพบ ของแอดจริงๆ………..

อ่อลืมบอกไปรถรุ่นนี้สามารถหาข้อมูลใหม่ๆหรือปรึกษาปัญหา แรกความคิดเห็นกันได้ที่กลุ่มส่วนตัวใน Facebook ที่มีชื่อว่า Sienta Society Thailand ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกในกลุ่มอยู่หลักหมื่นแล้วยังไงหากสนใจสามารถขอเข้ากลุ่มไปได้เลย ข้อมูลจัดเต็มแล้วยังได้พบเพื่อนใหม่อีกด้วย…

#TOYOTA SIENTA 2019 TOYOTA รถยนตร์ 7 ที่นั่ง #TOYOTA SIENTA 2019 #TOYOTA #รวมเรื่องรถ #automotive story