ประกันรถ

ประกันรถ

ประกันซ่อมห้างกับซ่อมอู่ ต่างกันยังไง

หลายคนไปซื้อประกันมักจะเจอคำถามจากตัวแทนนายหน้าขายประกันว่า ลูกค้าต้องการประกันซ่อมห้าง หรือซ่อมอู่ มีหลายคนที่ไม่เข้าใจความหมายของของการซ่อมห้าง หรือ ซ่อมอู่ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับคำทั้ง 2 คำนี้กันเลย

คำแรก ประกันซ่อมห้าง 

คำว่าซ่อมห้าง และคำว่าซ่อมศูนย์ คือคำที่มีความหมายเหมือนกัน

ยกตัวอย่างเช่น คุณมีรถอีซูซุ คุณก็ต้องเอารถไปซ่อมที่ศูนย์บริการของรถ อีซูซุ ใช้รถโตโยต้าก็ไม่ซ่อมที่ศูนย์โตโยต้า คือซ่อมตามศูนย์ของรถยี่ห้อนั้นๆ เข้าได้ทุกจังหวัด เพียงต้องดูว่าศุนย์นั้นเขารับซ่อมตัวถังไหม หรือรับเปลี่ยนอะไหล่อย่างเดียว รู้จักการซ่อมห้างแล้ว ทีนี้เรามาดู

ข้อดีข้อเสียของเบี้ยประกันประเภทซ่อมห้างมันมีอะไรบ้า

ข้อดีของเบี้ยประกันประเภทซ่อมห้าง

1.มีอะไหล่พร้อมเปลี่ยนให้ทันทีที่ศูนย์นั้นๆ

2.มีช่างเฉพาะด้านแยกกับอย่างชัดเจน

3.งานซอมการันตีได้มาตรฐาน สามารถเคลมได้ถ้ามีปัญหา

ข้อเสียของเบี้ยประกันประเภทซ่อมห้าง

1.คิวและระยะเวลาในการรอซ่อมอาจจะนาน

2.การเปลี่ยนอะไหล่จะยกเปลี่ยนทั้งชิ้นส่งผลให้ราคาแพง อาจจะไปกระทบกับการจ่ายเบี้ยประกันในปีหน้า

3.บางจังหวัดหรือบางพื้นที่ศูนย์บริการอาจให้บริการไม่ครอบคลุมในทุกๆด้าน

4.ราคาเบี้ยประกันจะสูงกว่า ซ่อมอู่

คำที่สอง เบี้ยประกันซ่อมอู่

เบี้ยซ่อมอู่ ก็คือการเข้าซ่อมกับอู่ทั่วไปที่เราเห็น เบี้ยซ่อมอู่แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ

1.อู่ในเครือประกัน หมายถึงอู่ในเครือของบริษัทประกันนั้นๆ

2.อู่นอกเครือประกัน ซึ่งอู่นอกเครือลูกค้าต้องต้องสำรองจ่ายไปก่อน  แล้วไปเบิกคืนทีหลังกับบริษัทประกัน ซึ่งตรงกันข้ามกับอู่ในเครือ ลูกค้าไม่ต้องสำรองเงินจ่ายก่อน เราเพียงยื่นใบเคมให้กับอู่ อู่ก็จะดำเนินการในเรื่องค่าใช้จ่ายกับบริษัทประกันเอง  และแจ้งวันรับรถ ให้กับลูกค้า

ทีนี้เรามาดูข้อดี ข้อเสียของเบี้ยประกันประเภทซ่อมอู่กัน

ข้อดีของเบี้ยประกันซ่อมอู่

1.เบี้ยประกันราคาถูกกว่าเบี้ยซ่อมห้างค่อนข้างเยอะ

2.ไม่ต้องรอคิวในการซ่อมนาน

3.มีอู่ให้เลือกเยอะกว่าศูนย์ และอาจอยู่ใกล้บ้านมากกว่าศูนย์ สามารถพูดคุยต่อรองกับอู่ได้ทั้งค่าช่าง  ค่าซ่อม

ข้อเสียของเบี้ยประกันซ่อมอู่

1.ต้องรกอะไหล่ที่จะมาเปลี่ยน เพราะอู่ต้องสั่งมา หรืออาจจะมี การเจอใช้อะไหล่ปลอมมาเปลี่ยนให้

2.มาตรฐานในการซ่อมขึ้นอยู่กับฝีมือช่างในแต่ละอู่

3.อาจถูกโกงเรื่องค่าแรงหรือค่าซ่อมเพราะควบคุมอยาก

ได้รู้จักเบี้ยการซ่อมห้าง และซ่อมอู่ รวมทั้งรู้ความแตกต่าง ข้อดี ข้อเสียของเบี้ยประกันทั้งสองอย่างแล้ว คราวต่อไปในการทำประกันก็จะได้เลือกประเภทของเบี้ยประกันตามที่ต้องการแบบไม่ต้องกังวลใจกันแล้ว แต่ถ้าเป็นไปได้ก้อย่าให้เกิดเหตุต้องเอาเข้าไปซ่องทั้งห้างและอู่เลยจะดีกว่า จริงไหม?

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

7 ข้อ ที่คนเข้าใจผิด เกี่ยวกับประกันรถ

ประกันรถ

7 ข้อ ที่คนเข้าใจผิด เกี่ยวกับประกันรถ 5 นาที

เนื้อหาในบทความนี้ เป็นเรื่องสำคัญที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องของประกันรถยนต์ที่คนขับรถควรต้องรู้และเปลี่ยนความคิดกันใหม่ มีอะไรบ้างไปศึกษากัน

1.พ.ร.บ. กับประกันรถเป็นเอกสารตัวเดียวกัน

ข้อนี้เป็นคนส่วนใหญ่เข้าใจผิดมากที่สุดว่า พ.ร.บ. กับประกันรถเป็นเอกสารตัวเดียวกัน เราจะอธิบายสั้นๆให้เข้าใจง่ายดังนี้ พ.ร.บ. เป็นการคุ้มครองคน เป็นประกันภัยภาคบังคับ ถ้าไม่ทำผิดกกหมาย และต่อภาษีไม่ได้  ส่วนประกันรถยนต์ หรือที่เรียกว่า กรมธรรม์คุ้มกันรถยนต์ ประกันตัวนี้เป็นประกันภาคสมัครใจ เราจะทำหรือไม่ทำก็ได้ ไม่ผิดกฎหมาย แต่แนะนำให้ทุกคนทำไว้ เพราะอุบัติเหคุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้ามีประกันภัย เวลาที่อุบัติเหตุเกิดขึ้นมันจะรองรับในการช่วยลดความเสี่ยง หรือรับความเสี่ยงแทนเราในกรณีที่เกดอุบัติเหตุที่เราไม่คาดคิด

2.ซ่อมห้างกับซ่อมศูนย์คือตัวเดียวกันใช่ไหม?

ข้อนี้ก็เป็นคำถามยอดฮิตเหมือนกัน เวลาทำประกันลูกค้าจะมักถามว่า ซ่อมศูนย์กับซ่อมห้างเหมือนกันไหม? ขออธิบายให้เข้าใจอย่างนี้นะว่า

เวลาที่เราทำประกันรถยนต์ มันจะมีให้เลือกว่าซ่อมศูนย์ หรือซ่อมอู่ ซึ่งอยากจะบอกว่า คำว่าซ่อมห้างกับซ่อมศูนย์คือตัวเดียวกัน เหมือนกับคือซ่อมที่ศูนย์ของรถยนต์นั้นๆ  ส่วนซ่อมอู่ก็คือซ่อมอู่ที่อยู่ในเครือค่ายของประกันนั้น

3.พ.ร.บ.รถมอเตอร์ไซด์ให้ค่าสินไหม น้อยกว่ารถยนต์

อย่างที่บอกไปในข้างต้นว่า พ.ร.บ. เป็นการประกันภัยภาคบังคับ

ที่เราต้องซื้อต้องทำทุกคน ไม่เช่นนั้นจะไปต่อภาษีรถไม่ได้  จากตำถามที่ว่า พ.ร.บ. รถมอเตอร์ไซด์ กับ พ.ร.บ.รถยนต์คุ้มครองเข้ากันไหม? อย่างที่เคยเห็นเป็นข่าวว่า มอเตอร์ไซด์มาชนรถยนต์ มอเตอร์ไซด์จะมีเงินไปจ่ายไหม อธิบายให้เข้าใจง่ายดังนี้ว่า พ.ร.บ. ไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซด์ หรือ พ.ร.บ.ของรถยนต์ มีความคุ้มครองเท่ากันนะ เจ็บ รักษาตัว เสียชีวิต ทุพลภาพถาวร พ.ร.บ.จะจ่ายเท่ากันหมด

4.) ทำประกันแล้ว เคลมตอนไหนก็ได้

หลายคนทำประกันเสร็จวันนี้ วันรุ่งขึ้นของเคลมแผลย้อนหลังเลย ! ผู้รับทำประกันตอนถ่ายรูปรถมา มันไม่มีแผลอะไรเลย พอทำประกัน แจ้งเคลมเลย ถึงเวลาลูกค้าก็ทักมาที่ตัวแทนว่า ทำไมประกันไม่รับเคลมเลย ถามไปถามมา ปรากฏว่ามันเป็นแผลเก่าที่เกิดขึ้นก่อนทำประกัน สรุปคือ ประกันไม่สามารถเคลมแผลย้อนหลังได้ อ้าวแล้วถ้าบังเอิญเราขับแล้วไปขนตรงแผลเก่าล่ะ คำตอบคือสามารถเปิดเคลมได้ แต่อาจต้องจ่ายคนละครึ่งกับบริษัทประกัน

5.ถ้าเจ้าของรถกับคนขับไม่ใช่คนเดียวกันจะเคลมประกันไม่ได้

เวลาทำประกันบางคนอาจจะกังวลใจ เพราะรถเป็นชื่อเรา ในคู่มือรถยนต์เป็นชื่อเรา แล้วเพื่อนยืมรถเราไปขับแล้วเกิดอุบัติเหตุ ประกันจะซ่อมให้เรา เคลมให้เราไหม? คำตอบคือ ประกันจะซ่อมให้ โดยจะยึดคนขับเป็นหลัก โดยขอให้มีใบขับขี่ถูกต้องตามกฎหมาย ถึงชื่อจะไม่ตรงในคู่มือรถยนต์ก็ตามแต่ ประกันก็ยังจะคุ้มครองตามปกติ

6.ถ้ารถยังผ่อนอยู่จะเปลี่ยนประกันไม่ได้

คนที่ยังผ่อนรถอยู่กับไฟแนนซ์ มักเกิดคำถามที่ว่า สามารถเปลี่ยนประกันได้ไหม? จะเกิดปัญหากับไฟแนนซ์ไหม คำตอบคือคุณสามารถเปลี่ยนบริษัทประกันภัยได้ทุกๆปี ไม่เกี่ยวกับไฟแนนซ์ 

7.รถมอเตอร์ไซด์ ไม่มีประกัน

ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซด์อาจเขาใจผิดว่า ประดันมีแต่ของรถใหญ่ คำตอบคือมีเหมือนกัน คือมีทั้งแบบ 2+/3+ เบื้ยก็มีตั้งแต่ 1,000 กว่าบาท,2,000กว่าบาท/3,000กว่าบาท ความคุ้มครองก็เหมือนรถใหญ่ คุ้มครองทั้งบุคคลภายในภายนอก และอาจจะมีแผนเพิ่มเติม เช่น รักษาอุบัติเหตุ ฯลฯ

และทั้งหมดนี้คือความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประกัน และเป็นปัญหาส่วนหนึ่งของลูกค้าประกันที่เกิดจากการเข้าใจผิด เชื่อกว่าอ่านบทความนี้แล้วคน คงลดความกังวลกันไปได้เยอะเลย

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

เรื่องนี้ต้องรู้ ก่อนทำการเคลมกับบริษัทประกันภัย

เรื่องนี้ต้องรู้ ก่อนทำการเคลมกับบริษัทประกันภัย

ของคู่กับกับรถของคุณ ที่ขาดไม่ได้เลย คือ ประกันภัย นั่นหมายถึง หากคุณมีรถ คุณต้องทำประกันภัยให้กับรถของคุณ ซึ่งระยะประกันภัยมีอายุเพียง 1 ปี ซึ่งก็หมายถึง คุณต้องทำการต่อประกันรถทุกปี เพื่อให้รถของคุณปลอดภัย และมีหลักประกันจากทางบริษัท

การเลือกบริษัทประกันภัยจึงสำคัญ เพราะบริษัทนั้นจะต้องดูแลรถของคุณตลอดระยะเวลาหนึ่งปี เปรียบเสมือนการหาคู่ครอง ถ้าเลือกได้ดีก็ดีไป ถ้าเลือกผิดก็ถือว่าพลาด เพราะบางบริษัทดูแลรถคุณเป็นอย่างดี บางบริษัทพยายามเลี่ยงการดูแลรถของคุณ

แล้วถ้าเกิดอะไรกับรถของคุณ จะมีวิธีการจัดการกับบริษัทประกันอย่างไร เพื่อให้ได้รับการเคลมเป็นอย่างดี วันนี้เรามีเทคนิคการจัดการให้ได้รับค่าเคลมไว้ตามประสาเซียนรถไว้  ดังนี้

automotive-story

1. ประกันชั้นหนึ่ง

กรณีที่หนึ่ง  – ขับรถไปตามปกติแล้วรถยางแตก รั่ว >>> ไม่จ่าย

กรณีที่สอง  – เกิดอุบัติเหตุแล้ว ยางแตกหรือรั่ว  >>>  จ่ายครึ่งราคายางใหม่

* เทคนิค* ถ้าขับรถไปยางแตกหรือรั่ว เปลี่ยนยางแล้วเก็บยางไว้ รอเกิดอุบัติเหตุแล้ว แจ้งความเสียหาย ว่ามียางแตกด้วย

2. ประกัน 3+

กรณีที่หนึ่ง  – หากคุณชนกับอย่างอื่นที่ไม่ใช่รถ เช่น เสาหรือหลัก  >>> ไม่จ่ายเวลา

* เทคนิค* หาเพื่อนหรือคนรู้จักที่รถมีแผล มาจัดฉากร่วมกัน ขอให้เนียนด้วย แล้วค่อยโทรแจ้งประกัน

3. การเคลมประกัน ทำสีรอบคัน

หากคุณเรียกประกันมาเคลมโดยการทำสีรอบคันที่เดียว คุณอาจจะโดนค่าเสียหายเยอะเลย

*เทคนิค*  วางแพลนการเข้าเคลม โดยเคลมทีละฝั่งอาจจะฝั่งขวาก่อน แล้วทิ้งระยะห่างประมาณ 15-20 วัน แล้วค่อยทำฝั่งขวา แล้วทิ้งระยะค่อยทำด้านหน้า ด้านหลัง และไม่ควรเคลมเกินครั้งละ 5 จุด เน้นเฉพาะจุดใหญ่ๆ อดทนรอเวลาอาจจะไม่ได้เร็วเท่าการเคลมทีเดียวทั้งคัน อาจใช้เวลานานหน่อย แต่ก็คุ้มค่ามากกว่า ได้เคลมทุกชิ้นแน่นอน เสร็จแล้วก็รวบรวมใบเคลมทั้งหมด ไปที่อู่ที่รับเคลมประกันพร้อมกับแจ้งว่า มีใบเคลมทั้งหมด ทำสีรอบคัน ถ้าขาดไปชิ้น สอง ชิ้น ส่วนใหญ่จะไม่คิดเงินเพิ่ม

automotive-story2

วิธีการเลือกบริษัทประกันภัยที่ทำให้คุณคุ้มค่ากับการดูแลรถ

1. เลือกบริษัทที่ให้ข้อมูลคุณได้ครบ ตอบคำถามคุณได้ว่า เคสไหน เคลมประกันทำได้ เคลมประกันทำไม่ได้ เคสนี้ควรทำยังไง บริษัทที่ดีจะไม่ปิดบังข้อมูลกับคุณ

2. เข้าไปหาข้อมูลกับอู่โดยตรงเลยว่า บริษัทไหน ที่ทางอู่ไม่รับรถมาทำบ้าง เพราะประกันที่อู่ส่วนมากรับทำ จะเป็นบริษัทประกันที่มีความน่าเชื่อถือ

3. หากคุณไม่เคยเคลมเลย ตลอดทั้งปีนั้น คุณจะต้องได้รับส่วนลดขับดี

การไม่เสียเปรียบผู้อื่น ถือเป็นการรักษาสิทธิของตัวคุณเอง แต่ก็ไม่ควรเอาเปรียบผู้อื่นเช่นกัน การที่

แนะนำเทคนิคการเคลมประกันให้ได้ค่าเคลมนี้ เป็นการแนะนำเพื่อให้คุณไม่เสียเปรียบผู้อื่น แต่ไม่ได้มีเจตนาแนะนำให้คุณเอาเปรียบผู้อื่นแต่อย่างใด ดังนั้น การจะทำสิ่งใด ควรคำนึงถึงใจเขาใจเรา ไม่ทำในสิ่งที่ไม่ควร เพื่อสังคมที่สงบสุข

Tag #ประกันภัยรถยนต์  #การเคลมกับประกันภัย  #บริษัทประกันภัย #รวมเรื่องน่ารู้ #auotomotive-story.com