ABB เปิดตัวปั๊มชาร์จ EV ที่เร็วที่สุดในโลก

ABB เปิดตัวปั๊มชาร์จ EV ที่เร็วที่สุดในโลก

ในอนาคตโลกเราจะต้องเจอกับปัญหาภาวะโลกร้อนที่หนักหน่วงมากยิ่งขึ้น ซึ่งในตอนนี้หลาย ๆ ฝ่ายและหลาย ๆ ประเทศก็เริ่มที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนเท่าที่จะแก้ไขได้แล้ว ซึ่งหนึ่งในโครงการที่ตลาดประเทศนั้นเริ่มดำเนินการก็คือการเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้านั่นเอง เพราะว่าน้ำมันถือว่าเป็นแหล่งพลังงานที่ใช้แล้วหมดไปและแถมยังเพิ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อนมากขึ้น

ภาพจาก Pixabay

ในอนาคตการมาถึงของรถยนต์ไฟฟ้าทำให้มีความจำเป็นที่ต้องมีปั๊มชาร์จไฟฟ้าให้กับเครื่องยนต์แทนที่ปั๊มน้ำมันนั่นเองซึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาการชาร์จไฟให้กับรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะใช้เวลาที่ยาวนานกว่าการเติมน้ำมันไปในรถยนต์ที่ขับอยู่บนท้องถนนในปัจจุบันนี้ ดังนั้นนอกจากความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งสถานีชาร์จให้ได้มากที่สุดแล้วยังมีความจำเป็นที่จะต้องทำให้สถานีชาร์จนั้นมีประสิทธิภาพพอที่จะชาร์จไฟให้กับรถยนต์ด้วยเวลาที่น้อยที่สุดด้วย

ภาพจาก Pixabay

ซึ่งในตอนนี้ผู้ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าก็เริ่มมีการพัฒนาสถานีชาร์จด้วยเช่นเดียวกันตัวอย่างเช่นบริษัท Tesla ที่เป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก ก็พัฒนาสถานีชาร์จรุ่น “Supercharge” ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้สูงถึง 250 KWs ซึ่งก็มีความเร็วในการชาร์จที่สูงมากแต่ว่าก็ยังไม่ใช่เป็นสถานีชาร์จที่มีความเร็วในการชาร์จสูงสุด โดยสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราความเร็วในการชาร์จสูงสุดนั้นเป็นของบริษัท ABB ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรรมของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ABB นั้นมี นั้นมีอัตราการชาร์จไฟฟ้าสูงถึง 360 KWs ซึ่งสามารถชาร์จไฟให้กับรถยนต์ไฟฟ้าเต็มโดยใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีหรือก็คือสามารถชาร์จไฟให้รถยนต์วิ่งได้ถึง 62 ไมล์ภายในระยะเวลาไม่ถึง 3 นาที

โดยทางบริษัท ABB ได้มีการประกาศเรื่องสถานีชาร์จเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายนที่ผ่าน โดยให้ชื่อสถานีชาร์จที่มีความเร็วที่สุดในโลกมีว่า “Terra 360” โดยจะมีการเปิดในทวีปยุโรปอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้และจะกระจาย Terra 360 ไปทั่วทั้งโลกภายในปีหน้า

ภาพจาก Pixabay

เมื่อทั้งโลกมีความต้องการที่เหมือนกันและรถยนต์ไฟฟ้าก็ดูเหมือนว่าจะเป็นยานพาหนะที่จะมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอนาคต ดังนั้นการผลิตสถานีชาร์จให้มีประสิทธิภาพก็เป็นสิ่งที่จำเป็นไม่แพ้กับการผลิตรถยนต์เลยทีเดียวเพราะถ้าหากว่าสถานีชาร์จมีไม่เพียงพอการที่ประเทศใดประเทศหนึ่งจะเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้านั้นก็เป็นเรื่องยากด้วยเช่นเดียวกัน

ข้อมูลจาก Cnet , การเงินธนาคาร

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Canoo เตือนอาจมีเงินทุนไม่เพียงพอที่จะนำ EV ออกสู่ตลาดยานยนต์

Canoo เตือนอาจมีเงินทุนไม่เพียงพอที่จะนำ EV ออกสู่ตลาดยานยนต์

                รายได้ในไตรมาสแรกของ Canoo แสดงให้เห็นว่าบริษัทกำลังเผาผลาญงบประมาณ ไม่มีรายรับในระยะสั้น และคำเตือนว่าบริษัทอาจไม่มีเงินเพียงพอที่จะทำธุรกิจต่อไป หุ้นของ Canoo ซึ่งร่วงลง 5% เมื่อวันอังคาร ร่วงลงอีก 17.5% ในการซื้อขายหลังตลาดหลังการเปิดเผยผลประกอบการ มันฟื้นตัวแล้วและตอนนี้ลดลงมากกว่า 11% Canoo มีประวัติที่วุ่นวายและสั้น การออกแบบรถยนต์ของบริษัท ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในฤดูใบไม้ผลิปี 2019 ได้รับการยกย่องและทำให้เป็นสตาร์ทอัพ EV ที่คึกคัก เมื่อเดือนที่แล้ว NASA ยังเลือก Canoo ให้สร้างยานพาหนะขนส่งลูกเรือภาคพื้นดินสำหรับโครงการสำรวจอวกาศของ Artemis

แต่ Canoo ยังประสบปัญหาและข้อขัดแย้งมากมาย รวมถึงละครภายใน การออกจากผู้ก่อตั้งร่วม ปัญหาทางกฎหมาย การสอบสวนของ SEC และความล่าช้าในการผลิต รายงานรายได้ล่าสุดนี้วาดภาพที่น่ากลัวมากขึ้นสำหรับอนาคตของ Canoo การเริ่มต้นของ EV ซึ่งเมื่อต้นสัปดาห์นี้ได้ยื่นฟ้องต่อหนึ่งในนักลงทุนรายใหญ่ในความพยายามที่จะเรียกคืนผลกำไร 61 ล้านดอลลาร์จากการซื้อขายหุ้นที่น่าสงสัยซึ่งถูกกล่าวหาว่าปิดตัวลงด้วยเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 104.9 ล้านดอลลาร์ นั่นหมายความว่า บริษัท ซึ่งขณะนี้ไม่มีรายได้ ถูกเผาผลาญไปประมาณ 120 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่ไตรมาสที่สี่ ผลขาดทุนสุทธิของ Canoo อยู่ที่ 125.4 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 15.2 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว

โดยมีเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมการดำเนินงานรวม 120.3 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 53.9 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 “แผนธุรกิจของเราต้องการเงินทุนจำนวนมาก” อ่าน การยื่นข้อบังคับจาก Canoo “หากเราไม่สามารถหาเงินทุนเพียงพอหรือไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนได้ เราจะไม่สามารถดำเนินการตามแผนธุรกิจของเรา และอาจจำเป็นต้องยุติหรือจำกัดการดำเนินงานของเราอย่างมีนัยสำคัญและโอกาสของเรา สถานะทางการเงินและผลการดำเนินงานอาจเป็นสาระสำคัญ

ได้รับผลกระทบ” Canoo ประกาศในเดือนสิงหาคม 2020 ว่าได้บรรลุข้อตกลงในการควบรวมกิจการกับ Hennessy Capital Acquisition Corp. ซึ่งเป็นบริษัทจัดซื้อกิจการพิเศษ โดยมีมูลค่าตลาด 2.4 พันล้านดอลลาร์ ในขณะนั้น Canoo กล่าวว่าสามารถระดมทุน 300 ล้านดอลลาร์ในการลงทุนภาคเอกชนในตราสารทุนสาธารณะหรือ PIPE รวมถึงการลงทุนจากกองทุนและบัญชีที่จัดการโดย BlackRock

การลงทุน PIPE นั้นดูเหมือนจะยังไม่เกิดขึ้นจริง Canoo กล่าวระหว่างการโทรกับนักลงทุนเมื่อวันอังคารว่าคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ในตราสารทุนสาธารณะ (PIPE) ที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการจะดำเนินไปในสัปดาห์นี้และ บริษัท ได้ยื่นฟ้อง 300 ล้านดอลลาร์สากล Tony Aquila ซีอีโอของ Canoo กล่าวว่าจำเป็นต้องใช้เงิน 600 ล้านดอลลาร์เพื่อเริ่มการผลิต แม้จะมีเงินที่ใกล้เข้ามานั้น Canoo ยังคงออกคำเตือน “ความกังวล” คุณสมบัติเกี่ยวกับการดำเนินงานต่อเนื่องหมายความว่าบริษัทอาจมีเงินทุนไม่เพียงพอหรือไม่สามารถสร้างรายได้เพียงพอที่จะปฏิบัติตามภาระผูกพันเมื่อถึงกำหนดชำระ ท่ามกลางกำหนดเส้นตายการผลิตอื่นๆ ที่ใกล้เข้ามา

รวมถึงการสั่งซื้อล่วงหน้ามากกว่า 17,500 รายการ Canoo กล่าวว่าจะส่งมอบโมเดลที่ปรับแต่งได้หลายรุ่นสำหรับ NASA ซึ่งจะขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์ไลฟ์สไตล์ภายในเดือนมิถุนายน 2566 ข้อกังวลทางการเงินของ Canoo เรียกความสามารถของผู้ผลิต EV ที่จะตอบสนอง ความมุ่งมั่นที่เป็นปัญหา เมื่อนักลงทุนถามเกี่ยวกับแนวทางการผลิตสำหรับยานพาหนะของ NASA Aquila ได้หลบเลี่ยงโดยกล่าวว่าข้อมูลนั้นเป็นความลับ แต่ Canoo ให้ความสำคัญกับการสร้างโรงงานใน Bentonville รัฐอาร์คันซอ ซึ่งคาดว่าจะผลิตรถยนต์ได้ “20,000 คัน” สำหรับ Canoo, Aquila กล่าว

Canoo ประกาศก่อตั้งโรงงาน Bentonville เป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยกล่าวในขณะนั้นว่าจะเลื่อนการเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไลฟ์สไตล์จากต้นปี 2023 เป็นไตรมาสที่สี่ของปี 2022 คำแนะนำนั้นไม่ได้รับการปรับปรุงในระหว่างการเรียกรายได้ของวันอังคาร บางทีจุดสว่างเพียงจุดเดียวในรายรับของ Canoo ก็คือการได้รับเงิน 30.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงยุติคดีกับ VDL Nedcar บริษัทผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติเนเธอร์แลนด์ Canoo ได้ชำระเงินล่วงหน้าแก่ VDL Nedcar โดยเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาการผลิตรถยนต์เพื่อสร้าง “ไลฟ์สไตล์ EV” การเป็นหุ้นส่วนสิ้นสุดลงในเดือนธันวาคมเมื่อ Canoo สำรวจข้อตกลงใหม่กับ VDL Groep

Source : https://techcrunch.com/2022/05/10/canoo-warns-it-may-not-have-enough-funds-to-bring-evs-to-market/?cx_testId=6&cx_testVariant=cx_undefined&cx_artPos=1#cxrecs_s

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ประเทศอังกฤษเพิ่มการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ประเทศอังกฤษเพิ่มการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

หลังจากที่มีการประชุม COP26 ซึ่งเป็นการประชุมของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกนั้นหลาย ๆ ประเทศก็เริ่มมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในประเทศ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศของโลกให้ได้มากที่สุดและ 1 ประเทศที่ดูเหมือนจะออกมาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วนั่นก็คือประเทศอังกฤษ

ภาพจาก Pexels

ประเทศอังกฤษที่นำโดยนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันมีการตั้งเป้าว่าจะเปลี่ยนรถยนต์ที่ขับขี่บนท้องถนนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าให้หมดภายในปี 2030 และได้มีการออกกฎหมายใหม่เพื่อจัดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าไปทั่วทั้งประเทศโดยในแต่ละปีจะมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าติดตั้งใหม่เป็นจำนวน 145,000 สถานี โดยในปัจจุบันนี้สหราชอาณาจักรได้มีสถานีชาร์จเป็นจำนวน 25,000 สถานี โดยมีความต้องการที่ปรับเพิ่มขึ้น 10 เท่าภายในปี 2030 โดยกฎหมายกำหนดไว้ว่าอาคารที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จำเป็นที่จะต้องมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจากกฎหมายดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรถยนต์ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2030 นั่นเอง และกฎหมายดังกล่าวจะช่วยให้การชาร์จพลังงานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นไปได้ง่ายเหมือนกับการเติมน้ำมันดีเซล

ซึ่งจากแนวทางนี้ทำให้ในประเทศสหราชอาณาจักรอัตราการขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นโดย 10 เปอร์เซ็นต์จากการขายรถยนต์ทั้งหมดในปี 2020 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นจากปี 2018 เป็นจำนวน 2.5%

อย่างไรก็ตามเป้าหมายที่จะเปลี่ยนรถยนต์ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าให้หมดภายในปี 2030 ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายมากมายขนาดนั้นเพราะว่าสำหรับครอบครัวที่มีรายได้ระดับกลางจนถึงระดับต่ำภายในประเทศก็อาจจะไม่สามารถซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อมาใช้งานได้ในอนาคต

ภาพจาก Pexels

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจจะไม่ช่วยให้โลกของเราดีขึ้นในระยะสั้นแต่ในระยะยาวแล้วก็จะช่วยได้ และเป็นการช่วยให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะต้องอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปและได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง

นอกจากประเทศอังกฤษแล้วในตอนนี้บริษัทรถยนต์หลาย ๆ บริษัทก็เริ่มจะมีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นไม่ว่าจะเป็น Jaguar และ Volvo ที่มีแผนที่จะเปลี่ยนรถยนต์ทั้งหมดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ในปี 2025 จนถึง 2030 รวมไปถึง Ford ที่ตั้งเป้าว่าจะมีการขายรถยนต์เป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในทวีปยุโรปในปี 2035

ภาพจาก Pexels

รถยนต์ไฟฟ้าหรือว่าเป็นทางออกที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่หลาย ๆ ประเทศนั้นมีความเห็นคล้อยตามกัน เราพร้อมจะเปลี่ยนแปลงรถยนต์ภายในประเทศให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นด้วยซึ่งในประเทศไทยก็มีแผนนี้เช่นเดียวกันแต่ก็ต้องมาดูว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรถยนต์ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปีไหนกันแน่

ข้อมูลจาก BBC

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Mercedes Benz เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า VISION EQXX

Mercedes Benz เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า VISION EQXX

เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาบริษัท Mercedes Benz บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของชาวเยอรมันได้มีการออกมาบอกว่าบริษัท Mercedes Benz จะมีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในช่วงต้นเดือนมกราคม ซึ่งจะเป็นรถยนต์ Mercedes Benz VISION EQXX

Mercedes Benz VISION EQXX จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงมากโดยระยะทางที่รถยนต์คันนี้สามารถเดินทางได้ก็คือ 1000 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่งรถยนต์คันนี้จะใช้พลังงาน 10 KWh ต่อ 100 กิโลเมตร มากกว่า 6 ไมล์ต่อ KWh เมื่อเทียบเป็นระยะทางสำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันก็คือใช้น้ำมัน 1 ลิตรต่อการเดินทาง 100 กิโลเมตร

ภาพ Screenshot จาก Cnet Highlight

โดยบริษัท Mercedes Benz ตั้งใจให้รถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถใช้พลังงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่เกินไปแต่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของระบบขับเคลื่อน ความหนาแน่น ระบบแอโรไดนามิก และสร้างรถยนต์คันนี้ให้มีน้ำหนักเบา

ภาพ Screenshot จาก Cnet Highlight

Mercedes Benz VISION EQXX น้ำหนักเพียงแค่ 1,750 กิโลกรัมให้รถยนต์คันนี้ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่รถยนต์ SUVs มากกว่าจะเป็นรถยนต์ Sport cars และด้วยน้ำหนักที่น้อยทำให้รถยนต์คันนี้มีน้ำหนักน้อยกว่ารถยนต์ Mercedes Benz EQS ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Mercedes Benz ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้รถยนต์ Mercedes Benz VISION EQXX เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความหรูหรามาก และมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า Mercedes Benz EQS เป็นอย่างมากแค่เทียบระยะทางในการเดินทางก็เยอะกว่ามากเลยทีเดียวโดยรถยนต์Mercedes Benz EQS สามารถเดินทางได้เพียง 770 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งเพียงเท่านั้น นอกจากมีแบตเตอรี่สำหรับชาร์จไฟฟ้าที่ใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์แล้วบริเวณหลังคาของรถยนต์ยังมีแผงโซล่าเซลล์ ที่ใช้ในการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าอีกด้วยทำให้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้สามารถเดินทางได้มากขึ้นอีก 25 กิโลเมตร

ภาพ Screenshot จาก Cnet Highlight

Mercedes Benz VISION EQXX ที่ได้ถูกเปิดตัวมาเมื่อวันที่ 3 มกราคมเป็นเพียงรถยนต์ต้นแบบ โดยในตอนแรกทางบริษัท Mercedes Benz ตั้งใจจะเปิดตัวในงาน CES (Consumer Electronics Show) ที่เปิดให้ผู้ชมสามารถเข้ามาชมในงานได้แต่ด้วยการเพิ่มขึ้นของการแพร่ระบาดของโรคโควิชทำให้งานถูกจัดในรูปแบบออนไลน์แทน

เช่นเดียวกันกับบริษัทรถยนต์รายอื่น ๆ บริษัท Mercedes Benz ตั้งใจที่จะเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2030 หรืออีกประมาณ 8 ปีข้างหน้านี้ แต่ว่ายังคงจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้พลังงานในการขับเคลื่อนสำหรับประเทศที่ยังไม่มีเงินทุนมากพอที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นเดียวกัน

ข้อมูลจาก The Verge

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Mercedes Benz เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า

Mercedes Benz

Mercedes Benz เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า VISION EQXX

เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาบริษัท Mercedes Benz บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของชาวเยอรมันได้มีการออกมาบอกว่าบริษัท Mercedes Benz จะมีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในช่วงต้นเดือนมกราคม ซึ่งจะเป็นรถยนต์ Mercedes Benz VISION EQXX

Mercedes Benz VISION EQXX จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงมากโดยระยะทางที่รถยนต์คันนี้สามารถเดินทางได้ก็คือ 1000 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่งรถยนต์คันนี้จะใช้พลังงาน 10 KWh ต่อ 100 กิโลเมตร มากกว่า 6 ไมล์ต่อ KWh เมื่อเทียบเป็นระยะทางสำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันก็คือใช้น้ำมัน 1 ลิตรต่อการเดินทาง 100 กิโลเมตร 

โดยบริษัท Mercedes Benz ตั้งใจให้รถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถใช้พลังงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่เกินไปแต่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของระบบขับเคลื่อน ความหนาแน่น ระบบแอโรไดนามิก และสร้างรถยนต์คันนี้ให้มีน้ำหนักเบา 

Mercedes Benz VISION EQXX น้ำหนักเพียงแค่ 1,750 กิโลกรัมให้รถยนต์คันนี้ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่รถยนต์ SUVs มากกว่าจะเป็นรถยนต์ Sport cars และด้วยน้ำหนักที่น้อยทำให้รถยนต์คันนี้มีน้ำหนักน้อยกว่ารถยนต์ Mercedes Benz EQS ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Mercedes Benz ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้รถยนต์ Mercedes Benz VISION EQXX เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความหรูหรามาก และมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า Mercedes Benz EQS เป็นอย่างมากแค่เทียบระยะทางในการเดินทางก็เยอะกว่ามากเลยทีเดียวโดยรถยนต์Mercedes Benz EQS สามารถเดินทางได้เพียง 770 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งเพียงเท่านั้น นอกจากมีแบตเตอรี่สำหรับชาร์จไฟฟ้าที่ใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์แล้วบริเวณหลังคาของรถยนต์ยังมีแผงโซล่าเซลล์ ที่ใช้ในการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าอีกด้วยทำให้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้สามารถเดินทางได้มากขึ้นอีก 25 กิโลเมตร 

Mercedes Benz VISION EQXX ที่ได้ถูกเปิดตัวมาเมื่อวันที่ 3 มกราคมเป็นเพียงรถยนต์ต้นแบบ โดยในตอนแรกทางบริษัท Mercedes Benz ตั้งใจจะเปิดตัวในงาน CES (Consumer Electronics Show) ที่เปิดให้ผู้ชมสามารถเข้ามาชมในงานได้แต่ด้วยการเพิ่มขึ้นของการแพร่ระบาดของโรคโควิชทำให้งานถูกจัดในรูปแบบออนไลน์แทน

เช่นเดียวกันกับบริษัทรถยนต์รายอื่น ๆ บริษัท Mercedes Benz ตั้งใจที่จะเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2030 หรืออีกประมาณ 8 ปีข้างหน้านี้ แต่ว่ายังคงจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้พลังงานในการขับเคลื่อนสำหรับประเทศที่ยังไม่มีเงินทุนมากพอที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพ Screenshot จาก Cnet Highlight

ข้อมูลจาก The Verge

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

บริษัท Tesla เจอคู่แข่ง

Xpeng motors

บริษัท Tesla เจอคู่แข่ง Xpeng motors เดินหน้าพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ

โลกของเราเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เทคโนโลยียานยนต์ก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกันหลาย ๆ บริษัทเริ่มเปลี่ยนจากรถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมันในการขับเคลื่อนเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าแทนเพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใช้แทนน้ำมันเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปโดยผู้นำทางด้านเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าก็คือบริษัท Tesla ของอีลอนมัสก์

จุดเด่นของรถยนต์ Tesla ก็คือระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่อำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ซึ่งจุดเด่นนี้ทำให้รถยนต์ของบริษัท Tesla ยังคงเป็นที่นิยมอยู่ในตลาด แต่ดูเหมือนว่าประเทศจีนก็ไม่น้อยหน้าด้วยเช่นเดียวกันโดยบริษัท Xpeng motors ก็ได้มีการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นคู่แข่งของบริษัท Tesla ในอนาคต

Xpeng motors มีการพัฒนาระบบที่มีชื่อว่า Xpilot Pilot 3.5 ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยมีการเปิดตัวมาพร้อมกับ City NGP ซึ่งเป็นระบบนำทาง ระบบนี้จะช่วยให้รถยนต์นั้นสามารถขับเคลื่อนไปได้ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเลนส์หรือการเพิ่มความเร็วและลดความเร็ว รวมไปถึงการแซงหน้ารถคันอื่นและสามารถขับเข้าออกไฮเวย์ได้ อย่างไรก็ตามทางบริษัท Xpeng motors พัฒนาระบบดังกล่าวเพื่อมาใช้ในเมืองเพียงเท่านั้นในตอนนี้

Xpilot Pilot 3.5 จะอยู่ในรถยนต์รุ่น Xpeng P5 car ซึ่งจะมีการเปิดตัวในช่วงปีนี้ ซึ่งการอัพเกรดจะออกมาให้ลูกค้าอัพเกรดในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022 นอกจากทางบริษัท Xpeng motors จะเปิดตัว Xpilot Pilot 3.5 ยังมีการพูดถึง Xpilot Pilot 4.0 ซึ่งระบบที่เอาเกรดมาจาก Xpilot Pilot 3.5 จะเป็นตัวช่วยให้รถยนต์นั้นสามารถเข้าจอดได้นั่นเอง โดย Xpilot Pilot 4.0 จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2023

นอกจากนี้บริษัท Xpeng motors ก็ได้เปิดตัวสถานีชาร์จใหม่ด้วยเช่นเดียวกันสำหรับรถยนต์ Xpeng โดยการชาร์จ 5 นาทีจะทำให้รถยนต์มีแบตเตอรี่วิ่งได้ถึง 200 กิโลเมตรเลยทีเดียว

ดูเหมือนว่าบริษัทรถยนต์ของจีนรายนี้จะกลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญของบริษัท Tesla ซึ่งก็ต้องดูว่าทั้งสองบริษัทนั้นจะมีการอัพเกรดยกระดับรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองได้มากแค่ไหนและในเรื่องความปลอดภัยของการขับขี่โดยใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัตินั้นจะมีความปลอดภัยมากแค่ไหนเพราะว่าก่อนหน้านี้บริษัท Tesla ก็ได้มีการถูกโจมตีเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งทาง Tesla ก็กำลังเร่งแก้ไขอยู่ในปัจจุบันนี้

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามล่าสุดบริษัท Tesla ก็กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นที่เรียบร้อย ราคาของหุ้นก็ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นที่เรียบร้อย และก็ยังเดินหน้าผลิตรถยนต์อย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าบริษัท Tesla เป็นบริษัทมหาอำนาจในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเลยก็เป็นได้ในตอนนี้ และคงจะหาคู่แข่งมาเทียบเคียงได้ยากมากเลยทีเดียว

ภาพ Screenshot จาก Hey Xpeng

ข้อมูลจาก CNBC

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ABB เปิดตัวปั๊มชาร์จ EV ที่เร็วที่สุดในโลก

ABB

บริษัท ABB ได้มีการประกาศเรื่องสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ในอนาคตโลกเราจะต้องเจอกับปัญหาภาวะโลกร้อนที่หนักหน่วงมากยิ่งขึ้น ซึ่งในตอนนี้หลาย ๆ ฝ่ายและหลาย ๆ ประเทศก็เริ่มที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนเท่าที่จะแก้ไขได้แล้ว ซึ่งหนึ่งในโครงการที่ตลาดประเทศนั้นเริ่มดำเนินการก็คือการเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้านั่นเอง เพราะว่าน้ำมันถือว่าเป็นแหล่งพลังงานที่ใช้แล้วหมดไปและแถมยังเพิ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อนมากขึ้น

ในอนาคตการมาถึงของรถยนต์ไฟฟ้าทำให้มีความจำเป็นที่ต้องมีปั๊มชาร์จไฟฟ้าให้กับเครื่องยนต์แทนที่ปั๊มน้ำมันนั่นเองซึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาการชาร์จไฟให้กับรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะใช้เวลาที่ยาวนานกว่าการเติมน้ำมันไปในรถยนต์ที่ขับอยู่บนท้องถนนในปัจจุบันนี้ ดังนั้นนอกจากความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งสถานีชาร์จให้ได้มากที่สุดแล้วยังมีความจำเป็นที่จะต้องทำให้สถานีชาร์จนั้นมีประสิทธิภาพพอที่จะชาร์จไฟให้กับรถยนต์ด้วยเวลาที่น้อยที่สุดด้วย

ซึ่งในตอนนี้ผู้ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าก็เริ่มมีการพัฒนาสถานีชาร์จด้วยเช่นเดียวกันตัวอย่างเช่นบริษัท Tesla ที่เป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก ก็พัฒนาสถานีชาร์จรุ่น “Supercharge” ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้สูงถึง 250 KWs ซึ่งก็มีความเร็วในการชาร์จที่สูงมากแต่ว่าก็ยังไม่ใช่เป็นสถานีชาร์จที่มีความเร็วในการชาร์จสูงสุด โดยสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราความเร็วในการชาร์จสูงสุดนั้นเป็นของบริษัท ABB ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรรมของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ABB นั้นมี นั้นมีอัตราการชาร์จไฟฟ้าสูงถึง 360 KWs ซึ่งสามารถชาร์จไฟให้กับรถยนต์ไฟฟ้าเต็มโดยใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีหรือก็คือสามารถชาร์จไฟให้รถยนต์วิ่งได้ถึง 62 ไมล์ภายในระยะเวลาไม่ถึง 3 นาที

โดยทางบริษัท ABB ได้มีการประกาศเรื่องสถานีชาร์จเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายนที่ผ่าน โดยให้ชื่อสถานีชาร์จที่มีความเร็วที่สุดในโลกมีว่า “Terra 360” โดยจะมีการเปิดในทวีปยุโรปอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้และจะกระจาย Terra 360 ไปทั่วทั้งโลกภายในปีหน้า

เมื่อทั้งโลกมีความต้องการที่เหมือนกันและรถยนต์ไฟฟ้าก็ดูเหมือนว่าจะเป็นยานพาหนะที่จะมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอนาคต ดังนั้นการผลิตสถานีชาร์จให้มีประสิทธิภาพก็เป็นสิ่งที่จำเป็นไม่แพ้กับการผลิตรถยนต์เลยทีเดียวเพราะถ้าหากว่าสถานีชาร์จมีไม่เพียงพอการที่ประเทศใดประเทศหนึ่งจะเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้านั้นก็เป็นเรื่องยากด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet , การเงินธนาคาร

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

เมืองนิวยอร์คแบนรถยนต์ใช้น้ำมันในปี 2035

เมืองนิวยอร์ค

เมืองนิวยอร์คในประเทศสหรัฐอเมริกามีแผนการที่จะลดอัตราการใช้งานรถที่ใช้พลังงานน้ำมัน

ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันนี้โลกของเรากำลังเดินหน้าเข้าสู่วิกฤตที่ใหญ่กว่าโควิดนั่นก็คือภาวะโลกร้อนที่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะแก้ไขปัญหาไม่ทันเสียแล้ว นับตั้งแต่โลกของเราได้เดินทางเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมและมีเทคโนโลยีเข้ามารวมถึงประชากรของโลกเพิ่มขึ้นทำให้อัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และโลกของเรามีค่าเฉลี่ยที่จะร้อนขึ้นทุก ๆ ปี ซึ่งประเทศส่วนใหญ่ก็เริ่มที่จะหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้โลกของเรานั้นชะลอการเพิ่มสูงขึ้นของอุณหภูมินั้นก็คือการลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ต้องยอมรับว่าเมื่อประชากรเพิ่มสูงขึ้นทำให้การจราจรก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกันในปัจจุบันนี้รถยนต์ที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานมาจากน้ำมันซึ่งเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปและส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เมืองหลายเมืองพบเจอกับปัญหาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เนื่องจากการจราจรที่ติดขัด ทำให้หลายๆ ประเทศเริ่มมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนรถยนต์ใช้พลังงานน้ำมันเป็นรถยนต์ใช้พลังงานไฟฟ้า เมืองนิวยอร์คในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีแผนการที่จะลดอัตราการใช้งานรถที่ใช้พลังงานน้ำมัน โดยในปี 2035 เมืองนิวยอร์คจะแบนรถยนต์พี่ใช้พลังงานน้ำมัน โดยมีการออกกฎหมาย A.4302/S.2758 ที่ได้มีการลงนามโดย Kathy Hochul ผู้ที่เป็นผู้ว่าราชการเมืองนิวยอร์ก โดยกฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายที่จะห้ามซื้อขายรถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมันดีเซลและแก๊สภายในปี 2035 โดยรถยนต์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นรถยนต์โดยสารรถขนส่งรถยนต์ออฟโรดจะต้องจำหน่ายในรูปแบบ Zero emission

นอกจากนี้กฎหมายดังกล่าวนั้นยังออกมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะลดการปล่อยมลพิษจากรถบรรทุกอีกด้วยโดยภายในปี 2045 รถบรรทุกขนาดกลางจนไปถึงขนาดใหญ่จะเป็นรถยนต์ที่ไม่มีการปล่อยมลพิษ ซึ่งเมืองนิวยอร์คนั้นจะมีการเริ่มต้นเป็นเมืองไร้มลพิษตั้งแต่ปี 2025 โดยมีเป้าหมายที่จะลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ถึง 85 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2050

อย่างไรก็ตามกฎหมายที่ได้ออกมาเกี่ยวกับการแบนการซื้อรถยนต์ที่ใช้พลังงานแก๊สและน้ำมันนั้นจะไม่มีผลย้อนหลังกับผู้ที่ได้ครอบครองรถยนต์ที่ใช้พลังงานดังกล่าวก่อนหน้านี้ และการที่เมืองนิวยอร์คได้ออกกฎหมายนี้ คงทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์นั้นต้องเปลี่ยนแปลงไปมากอย่างแน่นอนในอนาคตอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วทั้งโลกคงเดินหน้าที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นซึ่งในปัจจุบันก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพจาก Pixabay

ข้อมูลจาก Cnet

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

TESLA MODEL X รถหรูเปิดประตูแบบมีปีกได้

TESLA MODEL X

ถ้าพูดถึงส่วนของรถยนต์ในค่าย TESLA เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮาในตลาดรถยนต์ของไทยอย่างมาก เนื่องจากค่ายรถยนต์ TESLA เป็นค่ายรถยนต์ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในสหรัฐอเมริกา และเริ่มขายในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว การที่จะมีรถสักคันแน่นอนว่าไม่ได้เพียงต้องการที่รูปลักษณ์สวยงามเพียงอย่างเดียว

แต่การใช้สอยของรถยนต์ในค่าย TESLA ก็เป็นค่ายแรกที่พัฒนาระบบรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ แม้แต่รถยนต์แบบ SUV ของ TESLA เช่นกัน โดยเฉพาะรุ่น TESLA MODEL X ซึ่งเป็นรถยนต์อีกรุ่นที่ทำให้นึกถึง “นกฟินิกซ์” อย่างแท้จริงเลยล่ะ

จุดเด่นก็คือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่นิยมใช้ในกลางแจ้งอย่างมาก ซึ่งได้พัฒนา TESLA MODEL X เพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ พัฒนาการขับขี่ให้สมรรถนะสูงๆ ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มชอบความแรงของรถยนต์อย่างมาก แต่รูปทรงการออกแบบทำให้นึกถึงรถยนต์พวก Porsche อย่างมาก

เพราะการออกแบบทำให้ใครหลายคนไม่เชื่อว่านี่คือรถยนต์สายลุยแห่งอนาคตจริงๆ ระบบกรองอากาศใช้นวัตกรรมเดียวกับการกรองอากาศในห้องปลอดเชื้อของโรงพยาบาล ซึ่งมีชื่อว่า HEPA FILTER จะช่วยป้องกันแบคทีเรีย ไวรัสต่างๆ โปรโตซัว สปอร์ของพืช หรือเชื้อโรคชนิดอื่นๆ ที่มีโอกาสทำลายสุขภาพ ต้องบอกเลยว่าตอบโจทย์ในสถานการณ์นี้อย่างมากเลยทีเดียว

ซึ่งไปไหนมาไหนนอกจากต้องมีเครื่องกรองอากาศ กรองเชื้อด้วย มี TESLA MODEL X แค่คันเดียวไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมเลยล่ะ ความคุ้มค่าที่ได้มากับสุขภาพเรียกได้ว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเสียอีก แต่สิ่งที่ไม่พูดไม่ได้เลยนั่นก็คือ “ประตูรถยนต์ที่เหมือนกางปีก” โดยปกติแล้วจะเปิดออกด้านข้าง แต่ TESLA MODEL X จะเปิดออกแบบยกขึ้นจนเหมือนรถยนต์บินได้ และมีความคล้ายๆ กับภาพยนตร์เรื่อง Transformers ที่เป็นยนตรกรรมแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ (แต่ TESLA MODEL X ยังไม่ขั้นนั้น เพราะทำประตูออกมาแบบนี้เรียกว่าจิ๊บๆ) TESLA MODEL X ออกแบบมา 3 รุ่นย่อย ขนาดตัวถังมีความใหญ่พอสมควร จะมีขนาดของตัวถังที่ติดตั้งจากโรงงานประมาณ 5.037×2.070×1.684 ม.ในส่วนของความเร็วเริ่มต้น จะทำความเร็วเฉลี่ยโดยสูงสุด 209 กม./ชม. หรือประมาณ 130 ไมล์/ชม. ถือว่าเป็นรถยนต์สมรรถนะแรงที่ใช้ระบบไฟฟ้า และตอบโจทย์กับสภาพต่างจังหวัดของประเทศไทยอย่างมาก แต่ถ้าหากมีสถานีชาร์จไฟอาจจะเห็น TESLA MODEL X ในอนาคตก็เป็นได้

แต่ถ้ามีจริงๆ เรียกได้ว่าเพิ่มความปังมากขึ้น ราคาของรถยนต์รุ่น TESLA MODEL X จะตกอยู่ในราคาเริ่มต้นที่ 2.84 ล้านบาทไทย ถ้าหากใครสนใจอาจจะต้องสั่งจากทางค่าย TESLA โดยตรง หรือต้องรอติดตามในงาน Motor Show เพราะ TESLA จะตั้งบูทรถยนต์สำหรับรุ่นนี้ให้เห็นเพิ่มด้วย

ถ้าไม่อยากกังวลเรื่องภาษี หรือไม่อยากเสียภาษีนำเข้า แนะนำว่ารอไปในงานเลย เพราะภายในงานอาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษรอคุณอยู่ก็เป็นได้

#รถยนต์ #TESLA #รถยนต์ไฟฟ้า #รวมเรื่องรถ #automotive-story.com