5 ข้อควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อรถ EV

รถ EV

รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV กำลังเป็นเทรนด์ฮิตในยุคนี้

รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV กำลังเป็นเทรนด์ฮิตในยุคนี้ เพราะกระแสรักษ์โลกรักษ์สิ่งแวดล้อมกำลังมาแรงแซงทางโค้ง ทำให้เป็นที่น่าจับตามองในอนาคตว่าจะมีคนใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แต่เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าควรซื้อดีไหม รถยนต์ไฟฟ้านั้นเหมาะกับการใช้งานของคุณรึเปล่า วันนี้เรามีคำตอบให้ค่ะ

1. ประเภทของรถยนต์ไฟฟ้า

  – รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด  หรือ HEV เป็นการผสมผสานระหว่างยานยนต์ธรรมดากับมอเตอร์ไฟฟ้าแล้วมาทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนเครื่องยนต์มีข้อดีทำให้กักเก็บพลังงานได้มากขึ้น จึงช่วยประหยัดค่าน้ำมันนั่นเอง แถมยังไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย

  – รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด หรือ PHEV

เป็นการพัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด สิ่งที่พิเศษไปกว่ารถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด คือ สามารถชาร์ตไฟฟ้า เติมพลังให้เครื่องยนต์จากไฟฟ้าที่บ้านได้ หรือชาร์ตจากสถานีชาร์ตรถไฟฟ้าตามจุดที่ให้บริการเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ทันที จึงทำให้ชาร์ตครั้งหนึ่ง ทำให้วิ่งได้ไกล ประหยัดทั้งเงิน ประหยัดทั้งเวลา รักษาโลกร้อน แบบนี้ไม่ให้ซื้อได้อย่างไรคะ

   – รถยนต์ไฟฟ้าชนิดเชื้อเพลิง หรือ FCEV โดยเราจะใช้ไฮโดรเจนมาเป็นตัวเชื้อเพลิงสร้างพลังงานให้กับเรา ใช้เวลาเติมพลังงานไม่นาน เมื่อพลังงานถูกกักเก็บลงในแบตเตอร์รี่มอเตอร์แล้ว แต่ข้อเสียที่ร้ายแรงไปกว่านั้น คือ หากเกิดการรั่วไหลของก๊าซไฮโดรเจนจะกลายเป็นวัตถุไวไฟ   

   – รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ หรือ BEV เป็นรถยนต์ที่ได้พลังงานจากแบตเตอร์รี่ไซส์บิ๊กเบิ้มล้วนๆ ไม่เกิดมลพิษทางอากาศ100% ข้อเสียคือ ขับรถไปสถานที่ไกลๆไม่ได้ และต้องชาร์ตแบตครั้งนึงค่อนข้างใช้เวลานานพอสมควรเลยหล่ะค่ะ

2.ส่วนประกอบของรถยนต์ไฟฟ้า ที่เราควรรู้จักเพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจ

แบตเตอรี่ไฟฟ้า : แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นนวัตกรรมท่จะมาช่วยแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ ซึ่งเก็บพลังงานได้มากขึ้นในแบตเตอรี่ที่เล็ก เบา แต่สามารถบรรจุพลังงานไว้ในตัวแบตเตอร์รี่ได้มากขึ้นและทนทาน

อุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า : เพื่อแปลงกระแสไฟจากพลังงานไฟฟ้า มาผันแปรจากไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ มอเตอร์ไฟฟ้า : ใช้พลังงานจากไฟฟ้ากระแสสลับที่เราแปลงไฟฟ้ามาแล้ว ให้สามารถใช้งานได้จริง 

3. ข้อดี-ข้อเสียของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำที่คิดค้นกันมาอย่างยาวนาน ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างทนทาน ไม่เหมือนรถทั่วไปที่พอใช้งานไปได้ซักพักก็มักจะต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าบำรุงรักษา เช่น เครื่องยนต์ ด้วยพลังชาร์จแบบรวดเร็ว หัวชาร์จแต่ละประเทศก็มีคุณภาพต่างกัน เช่น หัวชาร์จแบบ  CHAdeMO ที่ญี่ปุ่นคิดค้น หัวชาร์จแบบ CCSที่นิยมในอเมริกา และยุโรปจะมีกำลังไฟสูง ขนาดบิ๊กเบิ้มกว่า หัวชาร์จแบบ GB/Tของจีน นอกจากนั้นยังประหยัดค่าน้ำมัน ปล่อยมลพิษน้อย เครื่องยนต์เงียบสนิท  ข้อเสีย คือ ระยะทางวิ่งทางไกลจำกัด มีจุดชาร์จจำกัด เสียค่าบำรุงรักษาไม่บ่อยครั้ง แต่เสียครั้งนึง เสียค่าใช้จ่ายสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป การกำจัดแบตเตอร์รี่ไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพแล้วอาจกเดมลพิษต่ออากาศ 

เป็นอย่างไรกันบ้าง หวังว่าคนที่สนใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า จะสามารถนำข้อมูลที่เราแนะนำในวันนี้ไปประกอบการตัดสินใจก่อนลองซื้อรถไฟฟ้ามาใช้กันนะคะ ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าก็มีหลายประเภท มีทั้งข้อดีและข้อเสีย  เช่น ลดมลพิษทางอากาศ แล้วเรามาช่วยลดมลพิษทางอากาศไปด้วยกันนะคะ เพื่อโลกที่น่าอยู่มากขึ้น 

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook