แจกทริค วิธีเช็ครถยนต์มือสอง ก่อนตัดสินใจซื้อ

แจกทริค วิธีเช็ครถยนต์มือสอง ก่อนตัดสินใจซื้อ

ขึ้นชื่อว่า รถยนต์มือสอง แปลว่าได้ผ่านการใช้งานมาแล้ว ซึ่งสำหรับใครที่มีแพลนจะซื้อรถยนต์มือสองในช่วงนี้ แต่ยังไม่รู้ว่าต้องดูจากอะไรหรือเช็คตรงไหนบ้าง ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะวันนี้เราจะมาแจกทริค วิธีเช็ครถยนต์มือสอง เพื่อให้แน่ใจและป้องกันความผิดพลาดก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งจะมีวิธีการดูอย่างไรบ้างนั้น ตามเรามาเช็คกันเลย

1. เช็คสภาพภายนอก

สภาพภายนอกตัวรถเป็นจุดที่เราสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย ควรเริ่มจากตรวจสอบริ้วรอยหรือรอยบุบต่างๆ และสังเกตความสม่ำเสมอของสี นอกจากนี้ก็ควรเปิดฝากระโปรงรถทั้งหน้าและหลัง เพื่อตรวจสอบโครงสร้างของตัวถังว่ายังมีสภาพสมบูรณ์หรือไม่

2. เช็คสภาพภายใน

ต่อมาตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ในรถ เช่น ระบบการแสดงผล, ระบบไฟต่างๆ, วิทยุ, เซ็นทรัลล็อก, กระจกไฟฟ้า และระบบปรับอากาศว่ายังทำงานได้ปกติหรือไม่

3. เช็คเลขไมล์

ส่วนใหญ่ผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์มือสองมักจะชอบดูที่เลขไมล์น้อยๆ เพราะแปลว่ารถยนต์คันนั้นได้มีการใช้งานมาได้ไม่นาน แต่ก็ต้องดูรุ่นรถและปีที่ออกรถด้วยว่าสอดคล้องกันหรือไม่

4. เช็คเครื่องยนต์

จุดนี้จะต้องมีความละเอียดมากกว่าจุดอื่นๆ เริ่มจากลองสตาร์ทเครื่องยนต์ดูว่าปกติหรือไม่ รอบเดินมีอาการสั่นหรือไม่ แต่ถ้าให้ชัวร์ควรหาช่างชำนาญการมาเป็นผู้ช่วยดูและตรวจสอบให้อีกครั้ง

5. เช็คช่วงล่าง

ส่วนใหญ่ วิธีเช็ครถยนต์มือสอง ในช่วงล่างนั้นจะต้องมีการยกตัวรถขึ้น ดังนั้นหากจะใช้วิธีนี้ในการดูด้วยตนเองคงไม่สะดวก จึงควรสอบถามทางผู้ขายถึงสภาพของรถ ก่อนที่จะนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อเช็คอีกครั้งหลังการซื้อขาย

6. เช็คประวัติการซ่อม

เราสามารถเช็คได้โดยการนำหมายเลขทะเบียนรถ หรือหมายเลขตัวถังไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการรถยนต์ ก็สามารถรู้ได้ว่ารถเข้าเช็คระยะตามกำหนดหรือไม่ และมีการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่ชิ้นใดไปบ้าง

7. ทดลองขับ

วิธีเช็ครถยนต์มือสอง ที่ดีที่สุดก็คือ การทดลองขับ เพราะจะได้สัมผัสถึงความรู้สึกต่างๆ ในขณะขับว่ารถยนต์ยังอยู่ดีมีสภาพการใช้งานที่ปกติดีหรือไม่

8. เช็คเอกสารประจำตัวรถยนต์

ที่ห้ามลืมเลยก็คือ เอกสารประจำตัวรถยนต์หรือเล่มทะเบียน เพื่อตรวจสอบว่ารถยนต์คันที่นั้นได้ถูกครอบครองอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ เช็คเลขตัวถังรถว่าตรงกับสมุดคู่มือและมีการเสียภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นผู้ครอบครองรถคันนี้มาก่อนแล้วบ้าง

และทั้งหมดนี้ก็คือ วิธีเช็ครถยนต์มือสอง ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ ที่เราสามารถทำได้ด้วยตนเอง แต่ถ้าหากอยากให้ชัวร์ก็ควรมีช่างชำนาญการหรือผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้มาช่วยตรวจสอบก็จะละเอียดขึ้น เพื่อความรอบคอบและป้องกันความผิดพลาดในภายหลังนั่นเอง

รูปภาพประกอบ : chobrod.com

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ABB เปิดตัวปั๊มชาร์จ EV ที่เร็วที่สุดในโลก

ABB เปิดตัวปั๊มชาร์จ EV ที่เร็วที่สุดในโลก

ในอนาคตโลกเราจะต้องเจอกับปัญหาภาวะโลกร้อนที่หนักหน่วงมากยิ่งขึ้น ซึ่งในตอนนี้หลาย ๆ ฝ่ายและหลาย ๆ ประเทศก็เริ่มที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนเท่าที่จะแก้ไขได้แล้ว ซึ่งหนึ่งในโครงการที่ตลาดประเทศนั้นเริ่มดำเนินการก็คือการเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้านั่นเอง เพราะว่าน้ำมันถือว่าเป็นแหล่งพลังงานที่ใช้แล้วหมดไปและแถมยังเพิ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อนมากขึ้น

ภาพจาก Pixabay

ในอนาคตการมาถึงของรถยนต์ไฟฟ้าทำให้มีความจำเป็นที่ต้องมีปั๊มชาร์จไฟฟ้าให้กับเครื่องยนต์แทนที่ปั๊มน้ำมันนั่นเองซึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาการชาร์จไฟให้กับรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะใช้เวลาที่ยาวนานกว่าการเติมน้ำมันไปในรถยนต์ที่ขับอยู่บนท้องถนนในปัจจุบันนี้ ดังนั้นนอกจากความจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งสถานีชาร์จให้ได้มากที่สุดแล้วยังมีความจำเป็นที่จะต้องทำให้สถานีชาร์จนั้นมีประสิทธิภาพพอที่จะชาร์จไฟให้กับรถยนต์ด้วยเวลาที่น้อยที่สุดด้วย

ภาพจาก Pixabay

ซึ่งในตอนนี้ผู้ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าก็เริ่มมีการพัฒนาสถานีชาร์จด้วยเช่นเดียวกันตัวอย่างเช่นบริษัท Tesla ที่เป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก ก็พัฒนาสถานีชาร์จรุ่น “Supercharge” ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้สูงถึง 250 KWs ซึ่งก็มีความเร็วในการชาร์จที่สูงมากแต่ว่าก็ยังไม่ใช่เป็นสถานีชาร์จที่มีความเร็วในการชาร์จสูงสุด โดยสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราความเร็วในการชาร์จสูงสุดนั้นเป็นของบริษัท ABB ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรรมของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ABB นั้นมี นั้นมีอัตราการชาร์จไฟฟ้าสูงถึง 360 KWs ซึ่งสามารถชาร์จไฟให้กับรถยนต์ไฟฟ้าเต็มโดยใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีหรือก็คือสามารถชาร์จไฟให้รถยนต์วิ่งได้ถึง 62 ไมล์ภายในระยะเวลาไม่ถึง 3 นาที

โดยทางบริษัท ABB ได้มีการประกาศเรื่องสถานีชาร์จเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายนที่ผ่าน โดยให้ชื่อสถานีชาร์จที่มีความเร็วที่สุดในโลกมีว่า “Terra 360” โดยจะมีการเปิดในทวีปยุโรปอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้และจะกระจาย Terra 360 ไปทั่วทั้งโลกภายในปีหน้า

ภาพจาก Pixabay

เมื่อทั้งโลกมีความต้องการที่เหมือนกันและรถยนต์ไฟฟ้าก็ดูเหมือนว่าจะเป็นยานพาหนะที่จะมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอนาคต ดังนั้นการผลิตสถานีชาร์จให้มีประสิทธิภาพก็เป็นสิ่งที่จำเป็นไม่แพ้กับการผลิตรถยนต์เลยทีเดียวเพราะถ้าหากว่าสถานีชาร์จมีไม่เพียงพอการที่ประเทศใดประเทศหนึ่งจะเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นรถยนต์ไฟฟ้านั้นก็เป็นเรื่องยากด้วยเช่นเดียวกัน

ข้อมูลจาก Cnet , การเงินธนาคาร

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

Honda เปิดตัวจักรยานยนต์ราคาประหยัดปี2021

Honda เปิดตัวจักรยานยนต์ราคาประหยัดปี2021

Hondaซึ่งเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่นในประเทศไทยได้เปิดตัวNew Wave125i เมื่อวันที่ 8เมษายน2564 โดยมีการพัฒนาภายใต้แนวคิดที่ว่า ให้คำว่าผู้นำเป็นได้มากกว่าที่เคย โดยNew wave125i สีเทาใหม่ Metallic Matte Gray พร้อมเอมเบลม เส้นสายต่อรถได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความปราดเปรื่องอีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน

New Honda Wave125iติดตั้งระบบไฟหน้า LED Headlight ส่องสว่างทันทีเมื่อสตาร์ท เรือนวัดความเร็ว Premium Amber Meter ดีไซน์ที่เรียบหรู ให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆครบครันและชัดเจน ระบบกุญแจนิรภัย ม่านปิดช่องกุญแจ กดกุญแจ เปิดกล่องใต้เบาะได้ ส่วนพื้นที่ใต้เบาะสามารถใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์ด้วยไซส์ขนาดXL ความจุถึง17ลิตรพร้อมถังน้ำมันขนาด5.4ลิตร

New Honda Wave125iใช้เครื่องยนต์125CC 4จังหวะ ระบบหัวฉีดPGM-FI มีอัตราประหยัดน้ำมัน71.4กม/ลิตร ผ่านการทดสอบภายใต้มาตรฐานไอเสียระดับ 7 โดยสถาบันยานยนต์พร้อมดิสเบรคหน้า โดยรถรุ่นนี้มี 3 เฉดสีเดิมแบบสปอร์ตทูโทนในรุ่นล้อแม็กได้แก่ สีน้ำเงิน-แดง,สีดำ-แดง,สีขาว-แดง

ราคา56,000 บาทและรุ่นล้อซี่ลวดสีดำ,สีแดง-ดำและสีน้ำเงิน-ดำในราคา53,800บาทที่ศูนย์Honda Wings Centerทั่วประเทศโดยรถจักรยานยนต์wave125i ใช้เครื่องยนต์PGM-FI4 Stoke SOHCซิงเกิ้ล โอเวอร์เฮดแคมป์ชาร์ฟท์ Air-Cooled ปริมาตรกระบอกสูบ 124.89ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ 52.4 ช่องชัก 57.9 มม

อัตรารอบแรงอัด 9:3:1 ระบบคลัชเป็นระบบหลายแผ่นซ้อนกัน ระบบส่งกำลังเกียร์วน 4 ระดับ อัตราทดเกียร์ที่1= 2.500 อัตราทดเกียร์ที่2=1.550 อัตราทดเกียร์ที่3=1.150และอัตราทดเกียร์ที่4=0.923

มีทั้งสตาร์ทมือและสตาร์ทเท้าขนาดกว้าง711มม. ยาว1,931มม สูง1,090มม.ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 5.4 ลิตร เฟรมแบ็คโบน ระบบกันสะเทือนหน้า เทเลสโคปิค หลังสวิงอาร์ม น้ำหนักสุทธิ 106 กิโลกรัม ดิสก์เบรกแบบลูกสูบเดี่ยว หลังดรัมเบรกล้อแม๊กซ์ยางหน้า 70/90 ยางหลัง 80/90 ใช้น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วหรือแก๊สโซฮอล์ออกเทน95หรือ 91ที่มีส่วนผสมเอทิลแอลกอฮอล์ไม่เกิน20%

Honda Wave125iได้เปิดตัวแล้ววันนี้ สำหรับท่านใดที่สนใจจะซื้อรถจักรยานยนต์Honda Wave125i สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์รถจักรยานยนต์ฮอนด้าหรือร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

บริษัท Tesla เตรียมส่ง Semi Truck ให้ Pepsi

บริษัท Tesla เตรียมส่ง Semi Truck ให้ Pepsi

บริษัท Tesla บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของโลกกำลังอยู่ในช่วงเตรียมการขนส่งรถบรรทุก Semi Truck ให้กับบริษัท Pepsi บริษัทน้ำอัดลมรายใหญ่ของโลก ซึ่งรถบรรทุกของเทสล่าก็ใช้พลังงานไฟฟ้าเช่นเดียวกับรถยนต์ส่วนตัวทุกรุ่นของ Tesla ด้วยเช่นเดียวกัน

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2017 บริษัท Tesla ได้ทำการเปิดตัวรถบรรทุกขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า “Semi Truck” และถัดมาจากนั้น 1 เดือนในเดือนธันวาคมบริษัท Pepsi ก็ได้สั่งจองรถยนต์ดังกล่าวจำนวน 100 คัน โดย Tesla จะเริ่มขนส่งรถบรรทุกคันแรกให้กับทางบริษัท Pepsi ในวันที่ 1 ธันวาคมปีนี้

สำหรับผู้ใช้งานโดยทั่วไปบริษัท Tesla ได้เปิดจองรถบรรทุกดังกล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาโดยผู้ที่สั่งจองจะต้องจ่ายค่ามัดจำร่วงหน้าจำนวน 20,000 เหรียญสหรัฐ โดยจ่ายก่อน 5,000 เหรียญและภายในอีก 10 วันจะต้องจ่ายอีก 15,000 เหรียญ หลังจากนั้นบริษัทได้ปิดการจองไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาและจะเริ่มการผลิตและขนส่งภายในปีนี้จนถึงช่วงปีหน้า

สเปคของรถบรรทุกไฟฟ้า Semi Truck

รถบรรทุก Semi Truck กินพลังงานน้อยกว่า 2 KwH ต่อ 1 ไมล์ สามารถเร่งเครื่องจาก 0 – 60 ไมล์ภายในเวลา 20 วินาที ถึงแม้ว่าจะบรรทุกของหนักเต็มความจุของตู้สินค้า และในการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้งสามารถวิ่งได้ถึง 500 ไมล์ และช้าเพียง 30 นาทีรถบรรทุกดังกล่าวจะได้รับพลังงานถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของความจุ

ในเรื่องของความปลอดภัยรถ Semi Truck ก็มีความปลอดภัยที่สูงโดยมีแอดวานซ์มอเตอร์มาพร้อมกับการควบคุมการเบรก เบาะคนขับจะอยู่บริเวณกึ่งกลางตัวของรถเพื่อให้คนขับสามารถมองเห็นได้ถูกทิศทาง สำหรับระบบเด่นของ Tesla อย่างระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ในรถบรรทุกจะไม่ได้ใช้ระบบ Full Self Driving แต่จะใช้เป็น Semi-autonomous Driving

สำหรับรายละเอียดอื่น ๆ ของรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่นดังกล่าวยังไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมามากนัก ถ้าหากต้องการติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ Tesla

นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าส่วนตัวแล้วบริษัท Tesla ยังมีการผลิตรถบรรทุกที่ใช้พลังงานไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งเทรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าก็กำลังเป็นที่ถูกจับตามองในอนาคตเพราะมันสามารถช่วยลดการปล่อยมลพิษได้มากเลยทีเดียวและในตอนนี้หลายๆ ประเทศก็มีแผนการที่จะเปลี่ยนรถยนต์ภายในประเทศให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นเดียวกัน และถ้าหากเป็นเช่นนี้ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นรถยนต์ของ Tesla วิ่งอยู่ตามท้องถนนเป็นจำนวนมากก็เป็นได้

ข้อมูลจาก The Verge

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

วิธีการตรวจเช็คน้ำมันเครื่องรถยนต์อย่างไรไม่ให้เครื่องพัง 

วิธีการตรวจเช็คน้ำมันเครื่องรถยนต์อย่างไรไม่ให้เครื่องพัง 

น้ำมันเครื่องอาจจะดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ สำหรับใครหลาย ๆ คนในการตรวจสอบคุณภาพ และการเข้ามาตรวจเช็คว่าพร้อมที่จะใช้งานหรือไม่ แต่อันที่จริงแล้วน้ำมันเครื่องนั้นถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญเลยทีเดียวที่ไม่ควรจะผิดพลาด ซึ่งถ้าหากคุณตรวจสอบหรือใช้งานน้ำมันเครื่องที่ผิดวัตถุประสงค์กับรถของคุณเอง อาจจะทำให้เครื่องยนต์ของคุณนั้นถึงกาลอวสานอย่างรวดเร็ว และสามารถทำให้ระบบการทำงานภายในรวนได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะฉะนั้นแล้วเราจึงอยากจะมาแนะนำวิธีการใช้น้ำมันเครื่องอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการเสียหาย และการสึกหรอของเครื่องยนต์แบบสูงสุดกัน ซึ่งบอกได้เลยว่าจำเป็นมาก ๆ เลยทีเดียว 

1. การตรวจสอบตรวจเช็คน้ำมันเครื่องทุกครั้งก่อนที่จะเดินทาง 

ถ้าหากเป็นไปได้อย่างน้อย 3 วันครั้งก็ยังดี แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดก็วันละ 1 ครั้งก่อนขับรถออกจากบ้านไปเลย 

ก็เพราะว่าในบางครั้งที่เราละเลยกับการดูแลรักษาเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องของคุณนั้นอาจจะมีการรั่วซึมหรือสูญหายได้ ซึ่งนั่นถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงเป็นอย่างมากสำหรับการใช้รถยนต์ในปัจจุบัน เราจึงอยากจะแนะนำให้คุณนั้นตรวจสอบน้ำมันเครื่องเป็นประจำ เพราะว่าจะสามารถช่วยดูแลรถยนต์ของคุณให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมงนั่นเอง 

จุดวางภาพที่ 2 

2. เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะกับรถยนต์ของคุณโดยตรง 

แน่นอนว่าน้ำมันเครื่องแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อนั้นก็มีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะรถยนต์ของคุณนั้นกับการใช้งานที่แตกต่างกันก็ล้วนแล้วแต่จะต้องมองหาน้ำมันเครื่องที่เหมาะสม ซึ่งถ้าหากคุณกำลังมองหาสิ่งที่ดี และเหมาะสมกับการใช้งาน อยากจะแนะนำให้เปรียบเทียบกับความรู้ในเว็บไซต์ว่ารถเรานั้นเป็นรถรุ่นยี่ห้ออะไร มีการใช้งานสมบุกสมบันหรือไม่ และอุณหภูมิในห้องเครื่องปกตินั้นเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้นั้นสามารถช่วยทำให้รถของคุณนั้นลดการสึกหรอได้มากยิ่งขึ้น และขับขี่ได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้นกว่าเดิมแน่นอน 

3. การตรวจสอบคุณภาพของน้ำมันเครื่องเป็นประจำ 

น้ำมันเครื่องรถยนต์ที่ดี และมีคุณภาพ บอกเลยว่าคุณนั้นต้องสังเกตมากพอสมควรโดยเฉพาะการใช้งานโดยรวมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นปริมาณน้ำมันเครื่องที่ลดลงไปหรือจะเป็นสี และกลิ่นที่เปลี่ยนไปก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่คุณนั้นควรจะใส่ใจ และควรพิจารณา แน่นอนว่าถ้าหากคุณใส่ใจข้อมูลเหล่านี้แบบครบถ้วนบอกได้เลยว่ารถยนต์ของคุณนั้นก็จะเสียหายได้ยากมาก ๆ เพราะฉะนั้นเราจึงอยากแนะนำให้คุณนั้นหมั่นตรวจสอบเป็นประจำอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ครั้งก็ยังดี 

สรุปความน่าสนใจในการตรวจเช็คน้ำมันเครื่องไม่ให้เครื่องพัง 

วิธีการเหล่านี้เป็นวิธีการเบื้องต้นที่เคยมีอยู่ในคู่มือของการดูแลเครื่องยนต์รถสมัยก่อน ซึ่งบอกเลยว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมากในการช่วยถนอมเครื่องยนต์ และการดูแลเครื่องยนต์ในระยะยาว ซึ่งถ้าหากคุณนำไปปฏิบัติแล้วรับรองได้เลยว่า ช่วยให้เครื่องยนต์ของคุณนั้นทรงประสิทธิภาพอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นแล้วลองนำไปใช้กันดูนะ ขอขอบคุณ 

ขอขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

DeLorean พร้อมทำการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 31 พฤษภาคมนี้

DeLorean พร้อมทำการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 31 พฤษภาคมนี้

มีข่าวออกมาสำหรับ DeLorean รุ่นใหม่อยู่ในระหว่างดำเนินการ และมาพร้อมกับพลังงานไฟฟ้า ผู้รับผิดชอบโครงการนี้คือ DeLorean Motor Company ซึ่งยืนยันผ่าน Twitter ในวันพฤหัสบดีว่าจะมีการเปิดเผย EV ทางออนไลน์ในวันที่ 31 พฤษภาคม แฟนๆ สามารถลงทะเบียนที่เว็บไซต์ของ DeLorean เพื่อดูตัวอย่าง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ภาพทีเซอร์ที่รวมอยู่ในทวีตเป็นการยืนยันว่ารถจะมีบานเกล็ดเหนือกระจกหลังและไฟท้ายแบบ LED แบบเต็มความกว้าง ชื่อ DeLorean จะเรืองแสงด้านหลัง

การวางแผนเริ่มเปิดในเดือนเมษายน DeLorean ทวีตภาพที่เผยให้เห็นมากขึ้น (แสดงด้านล่าง) และกล่าวว่าการเปิดเผยของรถยนต์จริงจะมีขึ้นในวันที่ 18 สิงหาคม การเปิดเผยจะจัดขึ้นที่ทางลาดรางวัลที่ 2022 Pebble Beach Concours d’Elegance ก่อนงาน รถกำลังแสดงบนสนามหญ้าแนวคิดเมื่อวันที่ 21 ส.ค.

เราจะหาชื่อที่ Pebble Beach ด้วย มันจะไม่ถูกเรียกว่า DMC-12 ตามสิ่งที่หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ DeLorean Troy Beetz บอกกับ Motor Authority ในเดือนมีนาคม DeLorean กำลังอยู่ในการระดมทุนรอบที่สอง บริษัทจะต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น Beetz กล่าวกับ MA แผนการเรียกร้องให้บริษัทเปิดเผยต่อสาธารณะ ในบางจุด CEO Joost de Vries บอกกับ MA แต่ไม่ได้รับไทม์ไลน์ที่ชัดเจน โดย De Vries ได้กล่าวถึงความคืบหน้าว่ารถยนต์ใหม่จะมีระยะทางมากกว่า 300 ไมล์และก้อนแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่กว่า 100 กิโลวัตต์-ชั่วโมงด้วยอัตราการชาร์จที่รวดเร็วประมาณ 150 กิโลวัตต์

Beetz กล่าวว่ามันจะเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งหมายความว่าน่าจะมีมอเตอร์อย่างน้อยสองตัว เรารู้ด้วยว่าจะมีประตูแบบปีกนก เช่นเดียวกับ DMC-12 Italdesign รับผิดชอบการออกแบบและวิศวกรรมบางส่วนที่ตั้งขึ้นบนแชสซีใหม่พร้อมอ่างคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีโครงสร้าง รถยนต์จะใช้พลังงานจากส่วนประกอบที่หาซื้อได้ทั่วไป แต่ใช้ซอฟต์แวร์แบบกำหนดเอง ตามที่ De Vries กล่าว คาดว่า DeLorean EV ใหม่จะมีราคาประมาณ 150,000 ถึง 200,000 เหรียญสหรัฐ โดยลูกค้าสามารถจัดส่งได้ในปี 2566

ซุปเปอร์คาร์ DeLorean ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดซึ่งได้รับการตั้งตารออย่างสูงจะได้รับการเปิดเผยอย่างเต็มรูปแบบในปลายเดือนนี้ ก่อนจะเปิดตัวสู่สาธารณะที่ Pebble Beach ในเดือนสิงหาคม DeLorean Motor Company จะเปิดตัวโมเดลในวันอังคารที่ 31 พฤษภาคมนี้ รถที่ได้รับการฟื้นฟูจะใช้แนวทางการออกแบบที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงจากรถสปอร์ตคูเป้ปี 1980 ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ เรียกว่า DeLorean Evolved โมเดลนี้จะเป็นข้อเสนอที่ทันสมัยมาก โดยสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงการพยักหน้าเล็กน้อยให้กับชื่อที่มีชื่อเสียง

ในปี 2559 ร่างกฎหมายการผลิตที่มีปริมาณต่ำฉบับใหม่ทำให้ DeLorean Motor Company ได้รับไฟเขียวเพื่อสร้าง DMC แบบสเปกดั้งเดิมรุ่นต่อเนื่องจำนวน 300 ตัว แต่กฎข้อบังคับไม่มีผลบังคับใช้จนถึงปี 2019 และไม่มีการยืนยันใดๆ ว่า บริษัทกำลังดำเนินการตามแผนเหล่านี้ควบคู่ไปกับการเปิดตัว EVolved

Tag :  รถยนต์, DeLorean,  รถยนต์ไฟฟ้า

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

ตลาดยานยนต์ GM จะกลับมาฝั่งยุโรปอีกครั้งในโมเดลรุ่นใหม่

ตลาดยานยนต์ GM จะกลับมาฝั่งยุโรปอีกครั้งในโมเดลรุ่นใหม่

                ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปอาจทำให้ Normal Motors กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับ Mary Barra CEO “เราต้องการทางเลือกในการพัฒนาที่มีอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากเราจะกลับเข้าสู่ยุโรปอีกครั้งในฐานะผู้เข้าร่วม EV ทั้งหมด ฉันต้องการไปข้างหน้า” Barra กล่าวผ่านงาน Milken World Convention Assist ในลอสแองเจลิส เมื่อต้นเดือนนี้ สอดคล้องกับ Detroit Free Press

จีเอ็มยุติการดำเนินงานเกือบเก้าทศวรรษในยุโรปหลังจากการขายโอเปิ้ลในปี 2560 ให้กับ PSA Group ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของสเตลแลนทิส ด้วยการโปรโมตหน่วยงานที่ขาดทุน GM สามารถจัดการกับภาษาจีนที่คุ้มค่าและตลาดอเมริกาเหนือ นอกเหนือจากการเติบโตของ EV และความเชี่ยวชาญในการขับขี่ด้วยตนเองที่กำลังเปิดตัวเท่านั้น จีเอ็มไม่เคยลดความสัมพันธ์กับยุโรปอย่างเต็มที่

ยุโรปเป็นตลาด EV ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (จีนใหญ่ที่สุด) ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 20% ของตลาดรถยนต์ใหม่ ตรงข้ามกับตลาดสหรัฐฯ เพียงประมาณ 5-6% เป็นเวลา 90 ปีที่ GM ดำเนินกิจการในยุโรปผ่านแบรนด์ Opel และ Vauxhall แต่กลับประสบปัญหาในการทำกำไรที่นั่น อันที่จริง บริษัทสูญเสียเงินจากการดำเนินงานในยุโรปเป็นเวลา 16 ปีติดต่อกันก่อนที่จะขายทั้งสองแบรนด์ให้กับสิ่งที่เรียกว่าสเตลแลนติสในปัจจุบัน มันยังคงขาย Corvette หรือ Cadillac เป็นครั้งคราวที่นั่น แต่อย่างอื่นส่วนใหญ่หายไปจากทวีปเก่า

แต่ตอนนี้ ในขณะที่การปฏิวัติ EV เริ่มขึ้นในสหภาพยุโรป Mary Barra ซีอีโอของ General Motors กล่าวกับผู้ฟังในสัปดาห์นี้ว่า “ประมาณห้าปีที่แล้ว เราขายธุรกิจ Opel ของเราให้กับ Stellantis ในตอนนี้ และเราไม่มีผู้ขาย ความสำนึกผิดจากธุรกิจการเผาไหม้ภายใน แต่เรากำลังมองถึงโอกาสในการเติบโตที่เรามีในขณะนี้ เพราะเราสามารถกลับเข้าสู่ยุโรปอีกครั้งในฐานะผู้เล่น EV แบบครบวงจร ฉันหวังว่าจะได้สิ่งนั้น”

จากข้อมูลของ Global Fleet Management เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว GM ได้แต่งตั้ง Mahmoud Samara เป็นกรรมการผู้จัดการของ GM Europe Samara เป็นหัวหน้าฝ่ายขายและการตลาดในอเมริกาเหนือของ Cadillac ซึ่งเขาช่วยเปลี่ยนแบรนด์ดังกล่าวให้เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าทั้งหมด ภารกิจของเขาในยุโรปคือการสร้าง “การเริ่มต้นระบบเคลื่อนที่ที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิม” ที่ยั่งยืนและให้ผลกำไรสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์ไร้คนขับ ซอฟต์แวร์ บริการด้านการเชื่อมต่อ การขนส่ง และการป้องกัน

Cadillac Lyriq ใหม่และ Corvette แบบไฟฟ้าอาจเป็นตัวเลือกสำหรับการขายในยุโรป แต่ GM อาจจะใช้ความเชี่ยวชาญที่เพิ่งค้นพบในยานพาหนะไฟฟ้าก่อนเพื่อตั้งหลักที่นั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถตู้ BrightDrop Zevo 600 และ 400 สามารถดึงดูดผู้ประกอบการยานพาหนะ เช่นเดียวกับรถลากพาเลทที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่รู้จักกันในชื่อ EP1 รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติจากแผนก Cruise ของ The General สามารถให้บริการเรียกรถหรือแชร์รถได้ในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นกว่าบางแห่งของยุโรป

อย่างไรก็ตาม จีเอ็มจะไม่ใช่เส้นทางลัดสำหรับ GM ซึ่งไม่มีฐานการผลิตในยุโรป Joe Phillippi จาก AutoTrends Consulting บอกกับ The Detroit Bureau ว่า “[It] will be a dogfight” เพื่อแข่งขันกับผู้ผลิตในท้องถิ่น เช่น VW และ Ford ดังนั้น GM “ควรเตรียมพร้อมที่จะเสียเงินจำนวนมหาศาล” เพื่อไปสู่การทำกำไร จีเอ็มรู้วิธีขาดทุนจากการดำเนินงานในยุโรป ตอนนี้คำถามคือ มันรู้วิธีการทำเงินที่นั่นหรือไม่? เจ้าของใหม่ของแผนก Opel เริ่มทำเงินกับแบรนด์ภายในหนึ่งปีหลังจากเข้าควบคุม ซึ่งทำให้บางคนสงสัยว่า GM รู้วิธีการทำธุรกิจในยุโรปจริงๆ หรือไม่ GM ปฏิเสธที่จะบอกว่า EVs รุ่นใดที่จะจำหน่ายในยุโรปหรือเมื่อไรจะจำหน่ายให้กับลูกค้า คอยติดตามเมื่อเรารู้มากขึ้น คุณจะรู้มากขึ้น

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

การซื้อรถหนึ่งคัน ต้องมีค่าใช่จ่ายเพิ่มเติมอะไรบ้าง

การซื้อรถหนึ่งคัน ต้องมีค่าใช่จ่ายเพิ่มเติมอะไรบ้าง

การมีรถยนต์เป็นของตัวเองสักคันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ  เนื่องด้วยยุคปัจจุบัน ค่าครองชีพสูง น้ำมันแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายคนมองว่ารถยนต์มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน เพราะมีความสะดวกสบาย และมีความปลอดภัยในการขับขี่มากกว่ารถจักรยานยนต์ ปัจจุบันรถยนต์มีหลายแบรนด์มีให้เลือกใช้งาน แล้วทำไมอัตราการซื้อรถยนต์สูงขึ้นในปีที่น้ำมันแพง  อย่างช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆออกมาแต่ในการซื้อรถยนต์ไม่ได้มีเพียงแค่ค่าผ่อนกับค่าน้ำมันยังมีค่าใช่จ่ายอื่นๆตามมา เช่น

ค่าต่อพรบ.รายปี

ผู้คนที่ขับขี่รถบนท้องถนน จะต้องได้รับความคุ้มครอง เป็นค่ารักษาพยาบาลในกรณีบาดเจ็บ และค่าปลงศพในกรณีเสียชีวิต โดยไม่ต้องพิสูจน์ความผิด ซึ่งบริษัทประกันจะชดใช้ให้แก่ผู้ประสบภัยบนท้องถนน หรือทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัย ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่บริษัทได้รับคำร้องขอมา

รถยนต์โดยสาร ที่นั่งไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง) จะต้องเสียค่าทำพรบ.ปีละ 600 บาท

Cr.pic:https://www.tqm.co.th/blog/

ค่าประกันภัยรถยนต์

การประกันภัยเพื่อคุ้มครองความสูญเสียหรือเสียหายอันเกิดจากการใช้รถ ซึ่งได้แก่ ความสูญเสียหรือเสียหายที่เกิดแก่รถยนต์ ได้แก่ความเสียหาย บุบสลาย หรือสูญหายของตัวรถยนต์  นอกจากนี้ ความสูญเสียหรือเสียหายที่รถยนต์ก่อให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้น แต่การเลือกประกันภัยรถยนต์มีตั้งแต่ประกันภัยชั้นหนึ่งถึงชั้นสามอีกด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนใขของบริษัทผู้ทำประกัน

Cr.pic: https://www.oic.or.th/th/consumer

ค่าเช็คระยะ

การนำรถเข้าเช็คระยะตามกำหนดที่เหมาะสมนั้นมีส่วนช่วยยืดอายุการทำงานของรถยนต์ จากกิจวัตรประจำวันของเราที่ใช้รถยนต์ในการเดินทางอาจทำให้อะไหล่สึกหลอจนส่งผลต่อระบบอื่น ๆ ดังนั้นการตรวจเช็คจึงช่วยให้เรารู้ว่ามีระบบไหนที่เริ่มเสื่อม ช่างจะทำการประเมินสภาพรถ และทำการเปลี่ยนอะไหล่หรือซ่อมบำรุงให้ นอกจากนี้การเช็คระยะรถยนต์ยังสิ่งสำคัญในการนำรถเข้าเช็คระยะตามกำหนดที่เหมาะสมยังทำให้ผู้ขับขี่อย่างเราสบายใจในสมรรถนะของรถยนต์ซึ่งหลายๆคนมองข้ามไป

Cr.pic: https://www.dlt.go.th/

 ค่าล้างรถ ดูดฝุ่น

สำหรับราคาล้างรถ ดูดฝุ่น โดยส่วนใหญ่จะเป็นราคาที่คิดกันตามประเภทรถยนต์ เริ่มประมาณหลัก 150 – 300 บาท ขึ้นอยู่กับค่าแรง  เครื่องมือ อุปกรณ์ รวมถึงน้ำยาในการทำความสะอาด และความพึงพอใจของคุณด้วย เพราะบางคนบอกว่าล้างเองไม่สะอาด เรียบร้อยเท่าที่ร้านทำให้นั้นเอง

Cr.pic: https://www.tqm.co.th/blog/

ค่าเปลี่ยนยางตามระยะ

โดยปกติแล้วยางรถยนต์ควรเปลี่ยนทุก ๆ 3-5 ปี หรือการขับขี่ที่เกิน 50,000 กิโลเมตรขึ้นไป เพราะยางอาจเกิดการสึกหลอ ถ้าไม่เปลี่ยนอาจเกิดอันตรายต่อตนเองและผู้อื่นได้ควรเลือกให้เหมาะสมกับประเภทรถยนต์ที่ใช้งาน โดยสำหรับค่าใช้จ่ายหลักในการเปลี่ยนยางรถยนต์คือ ค่ายางรถยนต์และค่าช่างซึ่งขึ้นอยูกับประเภทรถและค่ายางรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถของคุณ

Cr.pic: https://car.kapook.com/

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

เคล็ดลับการดูแลฟิล์มกรองแสงของคุณ และวิธีการตรวจเช็คว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้วหรือยัง 

เคล็ดลับการดูแลฟิล์มกรองแสงของคุณ

สิ่งหนึ่งที่คนไทยส่วนใหญ่ที่มีรถยนต์ขาดไม่ได้ นั่นก็คือฟิล์มกรองแสง แน่นอนว่าอากาศบ้านเราร้อนมาก จึงทำให้ใครหลาย ๆ คนนั้นประสบปัญหาทางด้านฟิล์มกรองแสงรถยนต์เสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ในบทความนี้เราจะมาขออธิบายวิธีการดูแลฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่ดี และมีคุณภาพคุณนั้นสามารถทำตามได้โดยทันที และแน่นอนว่าสามารถช่วยให้คุณนั้นยืดอายุการใช้งาน และตรวจสอบฟิล์มกรองแสงของคุณได้อีกด้วยว่าในปัจจุบันถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแล้วหรือยัง 

1. ระยะเวลาฟิล์มกรองแสงมาตรฐาน กี่ปีถึงเปลี่ยนครั้ง 

ระยะเวลามาตรฐานฟิล์มกรองแสงแบบมาตรฐาน ถ้าหากเราซื้อฟิล์มที่มีคุณภาพจะสามารถใช้งานได้อย่างน้อย 5 – 10 ปีขึ้นอยู่กับการดูแลการใช้งานในปัจจุบัน แน่นอนว่าจะขึ้นอยู่กับความร้อนที่เราใช้งานขับขี่ และรวมไปถึงสภาพอากาศในปัจจุบัน ซึ่งถ้าหากคุณนั้นดูแลรักษาเป็นอย่างดี ก็จะสามารถช่วยยืดอายุได้นานเกือบ 10 ปีกันเลยทีเดียวกับฟิล์มกรองแสงมาตรฐานคุณภาพดีในปัจจุบัน 

2. การสังเกตการเสื่อมสภาพของฟิล์มกรองแสงรถยนต์ด้วยสี 

สำหรับสีของฟิล์มกรองแสงรถยนต์นั้นสามารถบ่งบอกข้อมูลได้หลากหลายอย่างมากไม่ว่าจะเป็น ฟิล์มกรองแสงของคุณนั้นใกล้หมดอายุ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงของความหนาของชั้นสีที่ลดต่ำลง เรื่องนั้นไม่ค่อยน่าแปลกใจอะไรถ้าหากใช้มาเป็นเวลา 4-5 ปี และอีกสิ่งหนึ่งที่ควรระวัง นั่นก็คือฟิล์มกรองแสงที่ไม่มีคุณภาพ ถูกย้อมสีมา ซึ่งนั่นอาจจะเป็นอันตรายกับสายตา และอุณหภูมิภายในรถของคุณ 

3. ลักษณะของฟิล์มกรองแสงที่ควรจะเปลี่ยน 

สำหรับฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่ไม่มีคุณภาพ หรือฟิล์มกรองแสงที่ใช้มาเป็นเวลานานแล้วหมดสภาพ ก็จะมีลักษณะดังต่อไปนี้ 

  • ไม่ว่าจะเป็นทางด้านฟองอากาศที่ขึ้นอยู่ตามบริเวณของฟิล์มกรองแสงที่อยู่ภายในของคุณ ซึ่งนั่นหมายถึงการขยายตัวของออกซิเจนที่อยู่ภายในฟิล์ม และแผ่นฟิล์มนั้นไม่มีประสิทธิภาพ 

ซึ่งถ้าหากเกิดปัญหาเหล่านี้ เราก็ขอแนะนำให้คุณนั้นรีบเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงโดยด่วน เพราะนั่นอาจจะส่งผลเสียตอนที่ใช้งานรถยนต์ของคุณ ซึ่งจะบดบังการมองเห็นมากพอสมควร และอีกอย่างหนึ่ง ฟิล์มกรองแสงเหล่านั้นแทบจะไม่เป็นประโยชน์ในการช่วยกรองแสงของคุณอีกต่อไป เพราะฉะนั้นขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงใหม่ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่รถยนต์ของคุณ 

สรุปความน่าสนใจของการดูแลฟิล์มกรองแสงและการเปลี่ยนที่ถูกต้อง 

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ หลายคนนั้นอาจจะมองข้ามความสำคัญ แต่อันที่จริงแล้วเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยให้คลายความร้อนได้บนถนนการขับขี่ของเมืองไทย แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากหมดสภาพจากการใช้งานปกติทั่วไปก็คงจะไม่มีประโยชน์ ฉะนั้นเราขอแนะนำให้คุณนั้นศึกษาข้อมูลเหล่านี้ และทำตาม รับรองได้เลยว่าจะมีประโยชน์กับตัวคุณอย่างแน่นอน 

ขอขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook

คนมีรถควรรู้ จอดรถหน้าบ้านตัวเองผิดกฎหมาย ได้นะ

คนมีรถควรรู้ จอดรถหน้าบ้านตัวเองผิดกฎหมาย ได้นะ

แน่นอนว่าปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการจอดรถของคนไทยสำหรับบ้านที่มีรถยนต์ ถือว่าเป็นปัญหาที่ยังหาทางออกไม่ได้ และในบางครั้งอาจจะเป็นปัญหาระดับชาติเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะผู้ที่พักอาศัยอยู่ที่หอพักหรือว่าคอนโด ที่จอดรถไม่เพียงพออย่างแน่นอน และในบางครั้งแม้กระทั่งหน้าบ้านของตัวเองก็เช่นเดียวกัน ซึ่งในบางครั้งอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น และเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง โดยที่ไม่จำเป็นก็สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นแล้วก่อนที่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น มาศึกษากฎหมายจราจรกันก่อนเลย จะสามารถช่วยให้คุณนั้นปลอดภัย และไม่ต้องเสียเงินกลับค่าปรับที่ไม่จำเป็น ง่าย ๆ ได้ดังต่อไปนี้ 

1. คำถามที่พบบ่อยจอดรถหน้าบ้านตัวเองผิดกฎหมายหรือไม่ 

อันนี้ก็ต้องขออธิบายเลยว่า หลายคนนั้นเข้าใจผิดกันมาตลอดว่าจอดรถหน้าบ้านตัวเองนั้นเป็นอะไรที่เหมาะสม และไม่ผิดกฎหมาย อันที่จริงแล้วผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนใหญ่ไม่สามารถจอดได้ในทางสาธารณะหรือไม่มีสิทธิ์ที่จะจอดรถในพื้นที่ของเอกชน ยกเว้นแต่จะเป็นที่ให้จอด ซึ่งถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 55 ตามประมวลกฎหมายของการขับขี่รถยนต์ในประเทศไทยที่กล่าวอ้างว่าผู้ขับขี่นั้นห้ามดำเนินการหยุดรถ หรือจอดรถในที่สาธารณะโดยเด็ดขาด ถ้าหากสร้างความเดือดร้อนรำคาญใจให้ผู้ใช้รถใช้ถนนท่านอื่น คุณก็อาจจะกระทำความผิดทางด้านกฎหมายโดยไม่รู้ตัวได้เช่นเดียวกัน 

2. สถานที่ที่ไม่ควรจอดรถเพราะผิดกฎหมาย 

  • สถานที่จอดชิดซ้ายของจุดจอดรถประจำทาง คุณไม่ควรจอดโดยเด็ดขาด
  • บริเวณทางเท้าไว้สำหรับให้บุคคลเดินสัญจรไปมา 
  • บริเวณบนสะพานลอยหรือสถานที่ที่เป็นอุโมงค์ 
  • บริเวณทางร่วม และทางแยก 
  • ในสถานที่ที่ทำเครื่องหมายห้ามหยุดรถ 
  • ในเขตอาคาร และที่พักอาศัย โดยเฉพาะการสร้างความรำคาญใจทางด้านการจราจร และเดินรถ 
  • เขตปลอดภัย บริเวณที่พักอาศัย ซึ่งที่จอดนั้นไม่ควรเป็นที่จอดสาธารณะ 

3. ข้อบัญญัติ และค่าปรับ ของกฎหมาย อาญามาตรา 397

สำหรับท่านใดที่ฝ่าฝืน และสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ร่วมใช้ท้องถนนอยู่ในปัจจุบัน จะมีค่าปรับไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งถ้าหากคุณจอดรถเพียงแค่ขวางทางที่พักอาศัยตัวเอง และสร้างความเดือดร้อน แต่ถ้าหากคุณนั้นจอดรถขวางทาง กลั่นแกล้งหรือคุกคามผู้อื่น ทำให้เดือดร้อนโดยหวังก่อความไม่สงบ คุณอาจจะโดนคดีเพิ่มเติมทางด้านการจอดรถในพื้นที่สาธารณะ และอาจจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือว่าทั้งจำทั้งปรับ แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนคงไม่อยากจะพบเจออย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากคุณมีช่องทางการจอดรถ ขอแนะนำให้คุณนั้นย้ายรถของคุณออกจากถนนหน้าบ้านจะดีที่สุดเลยเพราะว่าทั้งปลอดภัย และป้องกันปัญหาทางด้านกฎหมายได้อีกด้วยเช่นเดียวกัน

สรุปข้อมูลเกี่ยวกับการจอดรถหน้าบ้านของตัวเอง

ข้อมูลเหล่านี้สามารถประมวลผลโดยรวมกับกฎหมายได้โดยทันที แต่อย่างไรก็ตามทางประเทศไทยนั้นก็ยังมีการอะลุ่มอล่วย เนื่องจากการใช้รถใช้ถนนของคนไทยนั้นมีพื้นที่จำกัดโดยเฉพาะในเมือง และเขตพักอาศัยโดยรวม แต่ถ้าหากเป็นไปได้คุณก็ลองหาสถานที่จอดที่ดีและปลอดภัยจะดีกว่า เพราะว่าจะได้ปลอดภัย และไม่ผิดกฎหมายของประเทศไทยอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com และสามารถติดตาม บทความอื่นๆที่น่าสนใจได้ทาง facebook