3 สาเหตุ น้ำยาหม้อน้ำหายบ่อย เฉลยวิธีการแก้ และทางออก

หม้อน้ำ

น้ำยาหม้อน้ำหรือระบบระบายความร้อนของรถทุกคัน เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนนั้นใส่ใจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะ ถ้าหากเราใช้รถอยู่ทุกวันในการไปทำงานดูแลบุตรหลาน และคนในครอบครัว ก็คงจะเข้าใจดีว่าปัญหาเรื่องความร้อนสะสมของเครื่องยนต์นั้นถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งหม้อน้ำนั้นก็เป็นส่วนที่สำคัญมากในการช่วยระบายความร้อน และบรรเทาอาการปัญหาเหล่านั้น แต่ส่วนใหญ่บุคคลประมาณ 50% ยังไม่รู้ เกี่ยวกับปัญหาใหญ่ของความร้อนสะสมที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหม้อน้ำ และน้ำยาหม้อน้ำที่หายไป เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับปัญหาเหล่านี้และ 3 วิธีการแก้ที่ทำง่าย และเริ่มได้ทันที 

1. มีรอยรั่วตามหม้อน้ำในรูปแบบตามด 

ปัญหานี้จะเกิดขึ้นบ่อยมากสำหรับรถยนต์ที่มีการใช้งานนานกว่า 10 ปีขึ้นไป ระบบการใช้งานของหม้อน้ำสำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่นั้น ถ้าหากคุณนั้นไม่ได้ใช้งานหนัก และหักโหมเป็นระยะเวลานาน บอกเลยว่าปัญหานี้จะเกิดขึ้นได้ยากมาก แต่ถ้าหากเกิดปัญหานี้ขึ้น ขอแนะนำให้คุณใช้วิธีการพบช่างแล้วให้ใช้สเปรย์เคลือบพื้นผิวด้วยความร้อน จะสามารถช่วยปิดรูแบบตามดได้เป็นอย่างดี และยังสามารถช่วยป้องกันปัญหาเรื่องความร้อนสะสม เนื่องจากการขาดน้ำยาหม้อน้ำได้อีกด้วย 

2. รอยรั่วตามข้อต่อต่าง ๆ ของหม้อน้ำขุ่น 

ข้อต่อจุดต่าง ๆ ในบางครั้งสามารถชำรุด และเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาได้ สำหรับคนที่ใช้รถ และขับขี่เป็นประจำ ถ้าหากคุณเลือกสังเกตว่า น้ำยาเติมหม้อน้ำของคุณนั้นหายไปอย่างรวดเร็ว ขอแนะนำให้คุณตรวจสอบตามจุดเหล่านี้เป็นอันดับต้น ๆ จะสามารถช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเงินมาก ถ้าหากคุณพบรอยรั่วคุณก็สามารถแก้ไขหรือซ่อมแซมเองได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินเป็นอย่างมาก แต่ถ้าหากไม่ไหวจริง ๆ ก็ขอแนะนำให้พบช่างมืออาชีพดีกว่า จะได้ปลอดภัย และช่วยแก้ปัญหาความร้อนสะสมได้มากเลยทีเดียว

3. ระบบการระบาย ของหม้อน้ำอุดตัน 

ปัญหานี้บอกเลยว่ารถใหม่ ๆ จะไม่เจอเจอแต่รถที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไป มักจะเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นไปประจำนั่นก็คือหม้อน้ำอุดตันทำให้ความร้อนขึ้นสูง สำหรับใครหลาย ๆ คนที่กำลังคิดว่าตัวเองนั้น

 ดูแลทำความสะอาดรถยนต์ดีพอ ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหม้อน้ำรถยนต์ของคุณแต่อย่างใด แต่มันจะเกี่ยวข้องกับทีมงานช่างที่จะเข้ามาดูแลระบบหม้อน้ำให้กับคุณ ด้วยการรื้อถอดประกอบทำความสะอาด ด้วยวิธีนี้จะทำให้ระบบการทำงานของรถคุณกลับมาปกติได้อีกครั้งอย่างรวดเร็ว ซึ่งการล้างทำความสะอาดหม้อน้ำนั้นควรจะทำอย่างน้อย 1 ครั้งต่อ 2 ปี สำหรับรถอายุ 10 ปีขึ้นไป ซึ่งจะเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาความร้อนขึ้นสูงได้เป็นอย่างดี 

ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นจากน้ำยาหม้อน้ำหายบ่อยด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งถ้าหากคุณแก้ไขปัญหานี้เรียบร้อยแล้ว บอกได้เลยว่าปัญหาของคุณจะหมดไป และรถของคุณจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนเดิมอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าหากใครนำไปใช้แล้วได้ผลดีก็อย่าลืมไปบอกต่อด้วยนะ เพราะความรู้เราแบ่งปันได้ยิ่งให้เรายิ่งได้รับ แล้วเจอกันใหม่นะคนรักรถทุกคน 

ภาพจาก https://pixabay.com/

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com

เรื่องของ “หม้อน้ำ” ตัวปรับอุณหภูมิที่ไม่ควรมองข้าม

หม้อน้ำ

ส่วนประกอบหม้อน้ำเครื่องยนต์ ส่วนมากจะระบายความร้อนด้วยน้ำ เครื่องยนต์ที่ระบายความร้อนด้วยน้ำมีน้ำหล่อเย็นที่ทำจากน้ำในแจ็คเก็ตน้ำรอบกระบอกสูบ และจะหมุนเวียนเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป หม้อน้ำวางอยู่ตรงกลางระหว่างทางออกของปั๊มน้ำและทางเข้าเพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานเหมาะสมที่สุด ตลอดเส้นทางประกอบด้วยหม้อน้ำ ท่อหม้อน้ำ ปั๊มน้ำ เทอร์โมสตัท และพัดลมระบายความร้อน ช่องแคบจำนวนมากสำหรับน้ำหล่อเย็นไหลผ่านตัวหลักของหม้อน้ำซึ่งเรียกว่าแกน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มผลการระบายความร้อนโดยการเพิ่มพื้นที่ของน้ำที่ไหลผ่านแต่ละแกน ช่วยลดปัญหาเมื่อหม้อน้ำไม่ทำงาน…เพราะร้อนเกินไป 

เรามาดูองค์ประกอบแต่ละส่วนของชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับหม้อน้ำเพื่อให้เราเข้าใจแต่ละบทบาทได้ชัดเจน เมื่อใช้ร่วมกับชิ้นส่วนเหล่านี้ จะทำให้หม้อน้ำเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการบำรุงรักษา ได้ดังนี้

  • พัดลมระบายความร้อน ขณะที่รถกำลังวิ่ง อุณหภูมิของเครื่องยนต์จะลดลงด้วยอากาศบริสุทธิ์ แต่การระบายความร้อนด้วยอากาศไม่เพียงพอต่อช่วงเวลาต่างๆ เช่น ระหว่างการจราจรติดขัดที่เครื่องยนต์ไม่เคลื่อนที่และยังก่อให้เกิดความร้อน ดังนั้นความจำเป็นของพัดลมระบายความร้อนจึงเกิดขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณการไหลของอากาศด้านหน้าหม้อน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ และไม่ทำให้เครื่องพังไปมากกว่านี้
  • ปั๊มน้ำ ซึ่งปั๊มน้ำจะหมุนเวียนของเหลวหล่อเย็นในแจ็คเก็ตน้ำรอบเครื่องยนต์ หม้อน้ำ และถังย่อย เพื่อให้น้ำหล่อเย็นที่ระบายความร้อนในหม้อน้ำไหลกลับไปยังแจ็คเก็ตน้ำอย่างราบรื่น
  • เทอร์โม เทอร์โมจะช่วยให้การเข้าพักน้ำหล่อเย็นภายในมีอุณหภูมิคงที่ในช่วงที่กำหนด นอกจากนี้ยังหยุดการไหลของน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้สารหล่อเย็นหมุนเวียนภายในหม้อน้ำในกรณี เช่น อากาศหนาวจัด เมื่อเครื่องยนต์ร้อนขึ้น อุณหภูมิของน้ำจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ และจะเปิดช่องจ่ายน้ำออกจนสุดเมื่ออุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นสูงกว่า 80 องศาเซลเซียสโดยประมาณ ทำให้ของเหลวหล่อเย็นหมุนเวียนได้
  • ฝาหม้อน้ำ อุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นบางครั้งอาจสูงถึง 120 องศาเซลเซียส วาล์วแรงดันและวาล์วสุญญากาศอยู่ในฝาหม้อน้ำตามลำดับ และเมื่อแรงดันเพิ่มขึ้นเนื่องจากการขยายตัวของของเหลวหล่อเย็น วาล์วแรงดันจะเปิดขึ้นและเคลื่อนปริมาณของเหลวหล่อเย็นที่ไหลเข้าสู่หม้อน้ำไปยังถังสำรอง เมื่อความดันลดลง วาล์วสุญญากาศจะเปิดขึ้นและนำของเหลวหล่อเย็นกลับเข้าไปในหม้อน้ำ นอกจากนี้ ยังยับยั้งการเดือดของของเหลวหล่อเย็นด้วยแรงดันคงที่

เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นการบำรุงรักษาหม้อน้ำได้ถูกวิธี และที่สำคัญหากจะให้หม้อน้ำยืดอายุการใช้งานตามวัตถุประสงค์ให้ได้มากที่สุด ต้องไม่เติมน้ำประปา เพราะถ้าเติมน้ำประปา มันจะเกิดตะกอนขังในหม้อน้ำ ทำให้เกิดความเสียหายได้ ควรใช้น้ำหล่อเย็นเพื่อถนอมการใช้งานจะดีที่สุด และปลอดภัยกว่ากันด้วยล่ะ

ติดตามบทความเรื่องรถได้ที่ รวมเรื่องรถ
เวปไซด์ automotive-story.com