Toyota Yaris Hatch Back รถ EcoCar ประหยัดน้ำมัน ราคาสบายกระเป๋า

Toyota Yaris Hatch Back

ไม่นานมานี้ โตโย้ต้าได้มีการออกรถ 5 ประตู อย่างตัว Toyota Yaris Hatch Back ที่ฉีกความเป็นอีโคคาร์แบบดั้งเดิม ซึ่งออกแบบให้ทรงดุสปอร์ต และยังมีความพรีเมียมไปในตัวด้วย ดูมีความลงตัว หรูหรา

และทันสมัย เรียกได้ว่าตอบโจทย์กับสมัยนี้อย่างมากเลย อีกทั้งยังคงมีความเป็นอีโก้คาร์ ที่ไม่เน้นแรง แต่ประหยัดน้ำมันอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยที่จัดเต็มให้อีกด้วย จะเป็นอย่างไร ตามมาอ่านกันได้เลย


เครื่องยนต์สไตลอีโคคาร์
ตัวเครื่องยนต์ Toyota Yaris Hatch Back นี้มีการออกแบบให้มีความประหยัดน้ำมัน และบรรจุน้ำมันได้เยอะกว่าอีโก้คาร์รุ่นอื่นด้วย โดยมีเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ส่วนความแรงจะอยู่ที่ 92 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที มีแรงบิดอยู่ที่ 109 นิวตันเมตร ทั้งตัวอัตราเร่งเมื่อทดสอบตั้งแต่ 0-100 ใช้เวลาแค่ 13-14 วินาทีเอง

โฉมหน้าสปอร์ตพรีเมียม

ต้องบอกเลยว่ารถรุ่นตัดความเป็นดีไซน์แบบ Eco Car ไปเลย เพราะเน้นความหรูหรา ทันสมัย โดยกระจังหน้าจะเป็นแบบรังผึ้งสีดำเงางาม พร้อมกับไฟหน้าและไฟตัดหมอกแบบ LED ทั้งยังใส่ใจเพิ่มกระจกด้านหน้าที่กรองความร้อน ช่วยลดความร้อนภายในรถอีกด้วย ยิ่งกว่านั้น Toyota Yaris Hatch Back ยังติดคีบจับอากาศ ช่วยลดแรงต้านลม เพิ่มการประหยัดน้ำมันอีกด้วย

ราคาคุ้มค่า
โดย Toyota Yaris Hatch Back มีด้วยกัน 3 รุ่น รุ่นแรกจะเป็น Entry ราคาอยู่ที่ 549,000 บาท ส่วนรุ่น Sport จะอยู่ที่ 609,000 บาท ที่เน้นความทันสมัย ส่วนสุดท้าย Sport Premium ราคา 679,000 บาท ที่ให้ทั้งความทันสมัยและหรูหราไปพร้อมๆ กัน ทั้งยังเน้นตั้งราคาที่จับต้องได้อีกด้วย

ตอบโจทย์การใช้งาน
ตัวรถรุ่นนี้จัดเต็มอย่างมาก ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยที่ครบเครื่อง โดยเริ่มจากตัวไฟหน้าที่เปิด-ปิด ได้อัตโนมัติ จะปิดเมื่อเราเดินจนถึงจุดหมาย และยังมีกุญแจ Smart Key ที่ไม่ต้องเสียบกุญแจ แค่มีอยู่กับตัวก็สตาทรถได้เลย ช่วยประหยัดอย่างเวลาอย่างมาก

ที่สำคัญยังมีระบบ ABS ช่วยการเบรกกะทันหัน ลดการเกิดเบรกไหม้ได้อีกด้วย จัดเพิ่มอีกด้วยกล้องบันทึกหน้า-หลัง และ 360 องศา บันทึกได้รอบคัน ที่สำคัญเบาะหลังสามรถพับได้ เพิ่มพื้นที่ใส่ของได้เยอะเลย 

ใครที่กำลังมองหารถยนต์สไตล์อีโคคาร์ ขับง่ายๆในเมือง แต่ดีไซน์สปอร์ต เรียบหรู ต้อง Toyota Yaris Hatch Back เลย นอกจากราคาจะเบาแล้ว สิ่งอำนวยความสะดวกยังเป็นที่หนึ่งสำหรับรถแบบอีโก้คาร์ด้วย ทั้งระบบเซฟตี้รอบคัน พื้นที่ใช้สอยด้านหลังกว้างมาก และจัดเก็บได้หลายแบบ ตามความต้องการของแต่ละคนเลย

#รถยนต์ #โตโยต้า #Toyota Yaris Hatch Back #รวมเรื่องรถ #automotive-story.com

ทำไงดี…ถ้าหาก TOYOTA RAV4 HYBRID VS TOYOTA FORTUNER

TOYOTA RAV4 HYBRID

หากพูดถึงในค่าย TOYOTA ซึ่งเป็นอีกค่ายที่มีโครงการดีๆ ให้กับคนไทยมาหลายปี ถ้าพูดในส่วนของ SUV อย่าง TOYOTA FORTUNER เป็นรถยนต์ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจนติดตลาดรถยนต์ในประเทศไทยไปแล้ว ถ้าหากจะซื้อรถยนต์แบบ SUV ขนาดใหญ่ ในค่าย TOYOTA ต้องนึกถึงรุ่น TOYOTA FORTUNER เสมอ และมีการพัฒนานวัตกรรมยนตรกรรมอย่างต่อเนื่องเสมอมา

แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความร้อนๆ หนาวๆ อีกครั้ง เมื่อ TOYOTA RAV4 HYBRID กำลังจะเป็นคู่แข่งของ TOYOTA FORTUNER ในตลาดรถยนต์ของค่าย TOYOTA อีกด้วย

จะว่าไปการนำรถยนต์ TOYOTA RAV4 HYBRID ก็ไม่ใช่เรื่องที่ใหม่นัก เพราะเปิดตัวในไทยเมื่อปี 2020 แต่ก็เป็นผลดีอย่างมากถ้าหากนำรถยนต์ระหว่าง TOYOTA RAV4 HYBRID กับ TOYOTA FORTUNER มาสู้กันในตลาดรถยนต์ สิ่งที่ชัดเจนอย่างมากก็คือความนิยมใน TOYOTA FORTUNER จะเปลี่ยนแปลงไป จนหันไปนิยม TOYOTA RAV4 HYBRID มากขึ้น

ผู้เขียนมองว่าก็ไม่ได้เหมือนทุบหม้อข้าวของตัวเองสักเท่าไหร่ เพราะอย่างไรเสีย รายได้ก็ต้องกลับมาหา TOYOTA อยู่ดี แต่ค่ายรถยนต์ค่ายอื่นที่ไม่ใช่ TOYOTA มีหวังได้หนาวๆ ร้อนๆ ตามกันเลยทีเดียว

การพัฒนารุ่นรถยนต์ของ TOYOTA RAV4 HYBRID มีความคล้ายๆ กับ TOYOTA COROLLA CROSS อย่างมาก แต่มีขนาดใหญ่พอๆ กับ TOYOTA FORTUNER เลยล่ะ

แต่ก็ดูเหมือนมีความใหม่ค่อนข้างมากในเรื่องของสมรรถนะ เนื่องจาก TOYOTA RAV4 HYBRID มีความแรงมาก เหยียบทีพุ่งไปข้างหน้าเลยทีเดียว จึงตอบโจทย์คนชอบความทันสมัย แต่ก็แฝงไปด้วยความท้าทาย

TOYOTA RAV4 HYBRID ก่อนจะพัฒนาให้เป็นระบบ HYBRID นั้น เคยเป็นที่นิยมในยุค 90s มาก่อน แล้วไม่กลับมาผลิตอีกเลย หรือผลิตอีกทีก็เป็น TOYOTA FORTUNER และ TOYOTA COROLLA CROSS ที่ผลิตในไทย

แต่ในประเทศมาเลเซียเริ่มเปิดตัว TOYOTA RAV4 HYBRID อย่างเป็นทางการ และในอนาคตข้างหน้าอาจจะเปิดตัวในประเทศไทยได้ในอนาคต

ระบบการขับขี่นุ่มนวลมาก หากใครเคยขับ TOYOTA FORTUNER เรียกได้ว่าคุณสามารถขับรถยนต์รุ่น TOYOTA RAV4 HYBRID ได้แน่นอน ระบบการรักษามาตรฐานความปลอดภัย และมาตรการสิ่งแวดล้อมแทบไม่ต่างกันนัก สามารถตีตลาดและเป็นคู่แข่งของ MAZDA CX-30, MITSUBISHI PAJERO SPORT, HONDA CR-V, FORD EVEREST ซึ่งเป็นรถยนต์ SUV ขายดีมากแห่งยุค

หากใครจะซื้อ TOYOTA RAV4 HYBRID อาจจะต้องเพิ่มเงินในส่วนของบวกภาษีนำเข้าสัก 3 เท่าเพราะยังไม่มีรุ่นผลิตในศูนย์ของ TOYOTA ประเทศไทย  แต่ก็มีลูกค้าคนไทยเริ่มนำรถยนต์รุ่น TOYOTA RAV4 HYBRID มาขับขี่ในบ้านตามท้องถนนอย่างเป็นทางการแล้ว

ส่วนใครยังไม่มีงบสูงถึงบวกภาษีนำเข้าด้วย อยากให้ลองขับ TOYOTA FORTUNER ดูก่อน แล้วคุณจะกลับมาขับรถยนต์ในรุ่น TOYOTA RAV4 HYBRID อย่างง่ายดายเลยทีเดียว

#รถยนต์ #โตโยต้า #เอสยูวี #รวมเรื่องรถ #automotive-story.com